ปัจจุบันตลาดคาร์บอนของประเทศไทย มีลักษณะเป็นกลไกภาคสมัครใจ ส่งผลให้ผู้ซื้อขาดแรงจูงใจในการซื้อ ทำให้ความต้องการคาร์บอนเครดิตในปริมาณมาก จนกดดันให้ราคาขึ้นสูง เกิดขึ้นได้น้อย
โดยผลสำรวจพบว่า มีเพียง 20-25% ของผู้ซื้อและผู้ขายเท่านั้น ที่สามารถตกลงราคา โดยยินดีซื้อและยินดีขายได้ตรงกัน ที่ราคาระหว่าง 51 – 200 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า แต่ถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตลาดภาคบังคับในต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี หลายโครงการสามารถขายได้ในราคาสูง ใกล้เคียงตลาดต่างประเทศ เนื่องจากสามารถสร้างคุณค่า เช่น ผลประโยชน์ร่วมของโครงการต่อชุมชน หรือตอบโจทย์ของผู้ซื้อโดยตรง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้พัฒนาต้องพิจารณา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า นอกเหนือจากการดำเนินการของผู้พัฒนาโครงการ ภาครัฐและหน่วยงานสนับสนุน สามารถช่วยผลักดันให้ราคาคาร์บอนเครดิต สูงขึ้นได้อีก โดยอาจพิจารณานำกลไก การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคบังคับมาใช้ เช่น ภาษีคาร์บอน ในรูปแบบที่อนุญาตให้ใช้คาร์บอนเครดิต ไปชดเชยได้ในช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่าน จะช่วยกระตุ้นตลาดคาร์บอนเครดิต และผลักดันราคาคาร์บอนในประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง