วันเสาร์, สิงหาคม 16, 2025
หน้าแรกสิ่งแวดล้อมไทยร่วมวง Climate Market...

ไทยร่วมวง Climate Market Club เจาะช่องทางตลาดคาร์บอนเครดิต

ครม.ไฟเขียวไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม Climate Market Club ตามคำเชิญของธนาคารโลก ส่งเสริมลดก๊าซเรือนกระจก รู้แนวโน้มตลาดคาร์บอนเครดิต

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  เห็นชอบกรณีที่ประเทศไทย เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม Climate Market Club ตามคำเชิญของธนาคารโลก  เพื่อส่งเสริมโครงการนำร่อง ในการถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจก ระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ในการรับทราบแนวโน้ม และทิศทางการเติบโต ของตลาดคาร์บอนเครดิตทั่วโลก เรียนรู้กฎ กติกา และราคาขาย เพื่อนำมาส่งเสริมให้เกษตรกร และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ได้เติบโตในตลาดนี้ โดยยึดหลักการสำคัญในการดำเนินงาน ได้แก่

1. การประกันความน่าเชื่อถือของผลการลดก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความมุ่งมั่นในการลดก๊าซเรือนกระจก

2. การปรับบัญชีและหลีกเลี่ยงการนับซ้ำ ผลการลดก๊าซเรือนกระจก

3. ดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติของความตกลงปารีส ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอความเห็นชอบ ให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกครั้งนี้ ปัจจุบัน กลุ่ม Climate Market Club มีสมาชิก 14 ประเทศ ประกอบด้วย บังคลาเทศ ภูฏาน ชิลี กานา คาซัคสถาน ญี่ปุ่น เปรู ราวันดา เซเนกัล สิงคโปร์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ยูเครน และ นามิเบีย

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

“5 ขา” เดือนเดียว! ทุ่นระเบิดเขมร “ละเมิด” หยุดยิง-หยามไทย

ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 - วันนี้ (14 สิงหาคม 2568) เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ทหารไทย “เหยียบทุ่นระเบิดเขมร” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ต้องสูญเสีย “ขา” ไปแล้ว 5 ขา… 5 นาย! 1. ถ้าเป็นลูกหลานของคุณ... จะรู้สึกอย่างไร?ลองจินตนาการดูว่าถ้ามีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายบอกว่า “เขารอด... แต่ขาขาด” หลายคนคงน้ำตาคลอทุกครั้งที่นึกถึงภาพทหารกล้าเหยียบทุ่นระเบิดจนเสียขา นี่ไม่ใช่แค่การสูญเสียอวัยวะ แต่มันคือการสูญเสียความฝันในอนาคต ความปกติสุขของทั้งครอบครัว และชีวิตที่เปลี่ยนไปตลอดกาล... จากทหารที่กำลังลาดตระเวนชายแดนกับภารกิจปกป้องประเทศ กลับกลายเป็นผู้ต้องต่อสู้กับการเดินโดยใช้ “ขาเทียม” ความฝันที่อาจไม่เหมือนเดิม แต่หัวใจยังคงรักชาติ พวกเขาไม่ได้หวังให้ใครมาปลอบ แต่ต้องการ “ความเข้าใจ” และ...

บ. เบอร์แทรม มอบเต็นท์ – เก้าอี้พักผ่อน ให้เมืองพัทยา เสริมความสะดวกนักท่องเที่ยว บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย

(15 ส.ค. 2568) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา รับมอบอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว ขณะรอขึ้น–ลงเรือ บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย จากนางสาวมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด โดยมีนายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยานายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยดร. พิทยา ภิรมย์อ้น ผู้ช่วยเลขานุการนายกเมืองพัทยา ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องรับรอง ศาลาว่าการเมืองพัทยา บริษัท เบอร์แทรม อินโนเวชั่น จำกัด (สำนักงานใหญ่) ก่อตั้งโดยคุณเกียรติคุณ จุมพลคุณวุฒิ ดำเนินธุรกิจด้าน MEDIA & ORGANIZER...

กลุ่มพลังชาวพุทธยื่นหนังสือถึง ผบช.ก. จี้หยุดใช้กฎหมายทำลายพุทธศาสนา

https://www.youtube.com/watch?v=8vV3kgWFv7k เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ส.ค.68 ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กลุ่มองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อปพส.) นำโดย นายประพันธุ์ กิตติฤดีกุล เลขาธิการองค์กรฯ พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มชาวพุทธทั่วประเทศ ได้รวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เรียกร้องให้หยุดการใช้กฎหมายที่อาจส่งผลกระทบและทำลายพระพุทธศาสนาในประเทศไทย โดยมี พ.ต.อ.ธนาทัศน์ ศรีพิพัฒน์ ผกก.2 บก.ปคบ. นายตำรวจเวร เป็นผู้รับหนังสือแทน ผบช.ก. โดยระบุถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขอข้อมูลส่วนตัวของพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ โดยกลุ่ม อปพส. มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากพระภิกษุสามเณรมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดาและเป็นพลเมืองไทยเช่นเดียวกับคนทั่วไป การจะตรวจสอบหรือเข้าค้นจะต้องมีหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการกระทำความผิดและต้องมีหมายศาลทุกครั้งนอกจากนี้ ในหนังสือยังได้เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญหลายประการ ได้แก่ -มาตรการตรวจสอบ เสนอให้การตรวจสอบประวัติพระภิกษุสามเณรที่สำนักงานพระพุทธศาสนาส่งข้อมูลให้ ควรตรวจสอบเฉพาะรูปที่เข้าข่ายกระทำความผิดและมีหมายศาลแล้วเท่านั้น -การปกป้องข้อมูลส่วนตัว เรียกร้องให้มีมาตรการรับผิดชอบที่ชัดเจนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของพระภิกษุสามเณรรั่วไหลไปในทางมิชอบ โดยให้พิจารณาลงโทษถึงขั้นให้ออกจากราชการ -การเข้าตรวจสอบวัด การเข้าตรวจสอบวัดต้องมีหนังสือแจ้งเจ้าคณะปกครองสงฆ์ทุกระดับชั้นก่อน เนื่องจากวัดถือเป็นนิติบุคคล...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.