วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2025
หน้าแรกสิ่งแวดล้อมลูบคม! ศุลกากร ขยะอิเล็กทรอนิกส์...

ลูบคม! ศุลกากร ขยะอิเล็กทรอนิกส์ โผล่ท่าเรือแหลมฉบัง

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน นำเข้าจากญี่ปุ่น-ฮ่องกง โผล่ท่าเรือแหลมฉบัง กรมศุลกากรลุยจับทันควัน

เมื่อวันที่ 15  มกราคม 2568 นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร นายจักกฤช อุเทนสุต รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” นำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 256 ตัน ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

นายพันธ์ทอง กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด พบว่าอาจมีการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านทางท่าเรือแหลมฉบัง ในวันที่ 3 และ 6 มกราคม 2568  กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม จึงร่วมกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ทำการตรวจสอบตู้สินค้าต้องสงสัย จำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พบว่า มีการแสดงข้อมูลในใบขนสินค้าเป็น “เศษโลหะและโลหะเก่าใช้แล้ว” เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่  จึงได้ทำการอายัดตู้สินค้าดังกล่าว เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด ผลการตรวจสอบพบว่า สินค้ามีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น จำนวน 9 ตู้ และฮ่องกง จำนวน 1 ตู้

จากการตรวจสอบภายใน พบเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์หรือส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ไม่ได้ มีสภาพเป็นเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ ปริมาณกว่า 256,320 กิโลกรัม ซึ่งสินค้าดังกล่าว ถือเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ และถือเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ต้องได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ กรมศุลกากร ยังเฝ้าระวังสินค้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพและสุขอนามัยของประชาชนอื่น ๆ ด้วย เช่น เศษพลาสติก ซึ่งเป็นไปตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ที่ห้ามนำเข้าเศษพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

แฉขบวนการสาวแสบ! เช่ากล้อง–แบรนด์เนม เชิดหนีขายเกลี้ยง เหยื่อกว่า 30 ราย สูญกว่า 30 ล้าน

https://www.youtube.com/watch?v=sPPi9zxZ9vU "ทนายรัชพล" นำเหยื่อกว่า 30 ราย บุกกองปราบร้อง ผบช.ก. เร่งคดีสาวแสบเช่ากล้อง-แบรนด์เนมแล้วเชิดหนี พบความเสียหายพุ่งกว่า 30 ล้านบาท ส่อทำกันเป็นขบวนการ ไม่ใช่แค่รายเดี่ยว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ส.ค.68 ที่ ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย เข้าพบ พงส.บก.ป.เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ขอให้ช่วยเร่งรัดคดีกรณี น.ส.ป่าน ที่มีพฤติกรรมหลอกเช่ากล้องถ่ายรูปดิจิตอลแล้วเอาไปขาย และบางรายโดนเอาข้อมูลส่วนตัวไปยืมสินค้าแบรนด์เนมก่อนเชิดหนี...

“พัทยาไม่ทอดทิ้งกัน” เมืองพัทยาจับมือชุมชนทัพพระยา ลุยจัดระเบียบ–เก็บขยะ คืนความสะอาดถนนหัตถจินดา

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา (เบียร์) สั่งการเข้ม หน่วยงานลงพื้นที่ร่วมชุมชนทัพพระยา จัดระเบียบและทำความสะอาดถนนหัตถจินดา เก็บกวาดขยะ–สิ่งปฏิกูล คืนบรรยากาศสะอาดตา แม้ยังเจออุปสรรคจากกลุ่มคนเร่ร่อนที่สร้างความสกปรกซ้ำเติมพื้นที่ (18 สิงหาคม 2568 เวลา 06.00 น.) ที่บริเวณ ถนนหัตถจินดา เส้นทางตัดชายเขามุ่งหน้าแหลมบาลีฮาย เจ้าหน้าที่เมืองพัทยาพร้อมด้วยชาวชุมชนทัพพระยา ลงพื้นที่ทำความสะอาด เก็บกวาดขยะและสิ่งปฏิกูลในพื้นที่รับผิดชอบจนแล้วเสร็จ สร้างบรรยากาศสะอาดตาและเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม การดูแลพื้นที่ยังคงมี อุปสรรคจากกลุ่มคนเร่ร่อน ที่สร้างความสกปรกเป็นจำนวนมาก ทำให้ชุมชนต้องคอยดูแลแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ด้าน นายประพันธ์ ฮอลลอค ประธานชุมชนทัพพระยา ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาที่เข้ามาดูแลพื้นที่ พร้อมยืนยันจะร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน #พัทยาสะอาด #ทัพพระยา #เมืองพัทยา #ตำรวจเชิงบวก

สภ.เมืองจันทบุรี จัดโครงการ “ถนนปลอดภัย” แจกหมวกนิรภัยสร้างวินัยจราจร

วันนี้ (18 สิงหาคม 2568) ที่บริเวณถนนหน้า สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ต่อเนื่องถึงสี่แยกพระยาตรัง ได้มีการจัดกิจกรรม โครงการถนนปลอดภัย โดยความร่วมมือระหว่าง สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี และ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ภายในกิจกรรม พันตำรวจเอก เสกสรรค์ ศรีเพริศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เป็นประธานมอบ หมวกนิรภัย (หมวกกันน็อก) ให้แก่ประชาชนผู้ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้สวมใส่ เพื่อสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองจันทบุรี ยังได้ร่วมกันตรวจสอบวินัยจราจรอย่างเข้มงวด เพื่อปลูกฝังการใช้รถใช้ถนนอย่างมีระเบียบและสร้าง ถนนปลอดภัย ให้แก่ประชาชนในเขตเมืองจันทบุรี โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทุกคนสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่หรือโดยสาร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญในการลดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บร้ายแรงบนท้องถนน

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.