วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2025
หน้าแรกสิ่งแวดล้อมกทม.อ่วม 3 พันล้าน...

กทม.อ่วม 3 พันล้าน สำลักควันพิษ PM 2.5

สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการดำเนินชีวิตประจำวัน สะท้อนจาก ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เฉลี่ยสูงกว่าระดับ 100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์ (18-26 มกราคม 2568) ทำให้คนบางกลุ่ม ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น  โดยเฉพาะด้านสุขภาพ 

ปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน PM 2.5 ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ทั้งในมิติของการรักษาอาการเจ็บป่วย รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น หน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งแม้ว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะถูกส่งผ่านไปยังภาคธุรกิจ แต่ก็ถือเป็นค่าเสียโอกาสที่เกิดขึ้น เพราะผู้บริโภคไม่สามารถนำเงินนี้ ไปใช้จ่ายเพื่อการอื่น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจ ในมิติของค่าเสียโอกาส โดยเฉพาะประเด็นด้านสุขภาพของคนกรุงเทพฯ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยใช้สมมติฐานว่า คนกรุงเทพฯ ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้/ระบบทางเดินหายใจ ไม่ต่ำกว่า 2.4 ล้านคน และประมาณ 50% ของจำนวนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ อาจมีอาการเจ็บป่วย จนจำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์ในช่วงนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน และมีค่ารักษา ค่าเดินทาง เฉลี่ยต่อคน 1,800-2,000 บาท รวมถึงประชาชนทั่วไป ที่อาจมีค่าใช้จ่ายในการดูแลป้องกันสุขภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเสียโอกาสจากประเด็นด้านสุขภาพ ทั้งการรักษาและการป้องกันอยู่ที่ราว 3,000 ล้านบาท แต่หากรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น เช่น การหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง การทำงานที่บ้าน การหยุดเรียน การท่องเที่ยว เป็นต้น รวมถึงผลกระทบที่เกิดในพื้นที่อื่นๆ ค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจจะสูงกว่านี้

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

แฉขบวนการสาวแสบ! เช่ากล้อง–แบรนด์เนม เชิดหนีขายเกลี้ยง เหยื่อกว่า 30 ราย สูญกว่า 30 ล้าน

https://www.youtube.com/watch?v=sPPi9zxZ9vU "ทนายรัชพล" นำเหยื่อกว่า 30 ราย บุกกองปราบร้อง ผบช.ก. เร่งคดีสาวแสบเช่ากล้อง-แบรนด์เนมแล้วเชิดหนี พบความเสียหายพุ่งกว่า 30 ล้านบาท ส่อทำกันเป็นขบวนการ ไม่ใช่แค่รายเดี่ยว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ส.ค.68 ที่ ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย เข้าพบ พงส.บก.ป.เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ขอให้ช่วยเร่งรัดคดีกรณี น.ส.ป่าน ที่มีพฤติกรรมหลอกเช่ากล้องถ่ายรูปดิจิตอลแล้วเอาไปขาย และบางรายโดนเอาข้อมูลส่วนตัวไปยืมสินค้าแบรนด์เนมก่อนเชิดหนี...

“พัทยาไม่ทอดทิ้งกัน” เมืองพัทยาจับมือชุมชนทัพพระยา ลุยจัดระเบียบ–เก็บขยะ คืนความสะอาดถนนหัตถจินดา

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา (เบียร์) สั่งการเข้ม หน่วยงานลงพื้นที่ร่วมชุมชนทัพพระยา จัดระเบียบและทำความสะอาดถนนหัตถจินดา เก็บกวาดขยะ–สิ่งปฏิกูล คืนบรรยากาศสะอาดตา แม้ยังเจออุปสรรคจากกลุ่มคนเร่ร่อนที่สร้างความสกปรกซ้ำเติมพื้นที่ (18 สิงหาคม 2568 เวลา 06.00 น.) ที่บริเวณ ถนนหัตถจินดา เส้นทางตัดชายเขามุ่งหน้าแหลมบาลีฮาย เจ้าหน้าที่เมืองพัทยาพร้อมด้วยชาวชุมชนทัพพระยา ลงพื้นที่ทำความสะอาด เก็บกวาดขยะและสิ่งปฏิกูลในพื้นที่รับผิดชอบจนแล้วเสร็จ สร้างบรรยากาศสะอาดตาและเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม การดูแลพื้นที่ยังคงมี อุปสรรคจากกลุ่มคนเร่ร่อน ที่สร้างความสกปรกเป็นจำนวนมาก ทำให้ชุมชนต้องคอยดูแลแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ด้าน นายประพันธ์ ฮอลลอค ประธานชุมชนทัพพระยา ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาที่เข้ามาดูแลพื้นที่ พร้อมยืนยันจะร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน #พัทยาสะอาด #ทัพพระยา #เมืองพัทยา #ตำรวจเชิงบวก

สภ.เมืองจันทบุรี จัดโครงการ “ถนนปลอดภัย” แจกหมวกนิรภัยสร้างวินัยจราจร

วันนี้ (18 สิงหาคม 2568) ที่บริเวณถนนหน้า สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ต่อเนื่องถึงสี่แยกพระยาตรัง ได้มีการจัดกิจกรรม โครงการถนนปลอดภัย โดยความร่วมมือระหว่าง สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี และ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ภายในกิจกรรม พันตำรวจเอก เสกสรรค์ ศรีเพริศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เป็นประธานมอบ หมวกนิรภัย (หมวกกันน็อก) ให้แก่ประชาชนผู้ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้สวมใส่ เพื่อสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองจันทบุรี ยังได้ร่วมกันตรวจสอบวินัยจราจรอย่างเข้มงวด เพื่อปลูกฝังการใช้รถใช้ถนนอย่างมีระเบียบและสร้าง ถนนปลอดภัย ให้แก่ประชาชนในเขตเมืองจันทบุรี โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทุกคนสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่หรือโดยสาร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญในการลดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บร้ายแรงบนท้องถนน

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.