“...วงการการเงินและการเมืองไทยเตรียมรับแรงสั่นสะเทือนครั้งสำคัญ เมื่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประกาศยกระดับมาตรฐานเทียบชั้นสากล งัดมาตรการเข้มข้นตรวจสอบ "บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง" หรือ PEPs (Politically Exposed Persons) งานนี้ครอบคลุมตั้งแต่ระดับชาติยันท้องถิ่น เพื่อปิดช่องโหว่การฟอกเงินและการทุจริต เตรียมบังคับใช้จริงต้นปี 2569 นี้!...” เจาะลึก PEPs: ใครบ้างที่อยู่ในเรดาร์? ประกาศล่าสุดที่ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 4 ธันวาคม 2568 ไม่ได้เพ่งเล็งแค่นักการเมืองในสภาเท่านั้น แต่ PEPs ตามนิยามใหม่นี้ กินความหมายกว้างขวางครอบคลุมผู้มีอำนาจในเกือบทุกภาคส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลก (FATF) และอนุสัญญาสหประชาชาติ (UNCAC) โดยกลุ่มเป้าหมายความเสี่ยงสูง ได้แก่: ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ: นายกฯ, รัฐมนตรี, ส.ส., ส.ว. กระบวนการยุติธรรม: ผู้พิพากษา, ตุลาการระดับสูง กองทัพและตำรวจ: นายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ กลไกขับเคลื่อนประเทศ:...

ขยายผลยึดทรัพย์ 1.01 หมื่นล้าน งัดมาตรการเข้มสแกน "เจ้าของที่แท้จริง" สกัดแก๊งโกงฟอกเงินผ่านตลาดหุ้น ท่ามกลางวิกฤตอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กัดกินเศรษฐกิจไทย ล่าสุด "เส้นทางเงินสีเทา" ของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติกำลังถูกไล่ต้อนจนมุม เมื่อสองหน่วยงานยักษ์ใหญ่ด้านการเงินอย่าง ปปง. และ ก.ล.ต. ประกาศผนึกกำลังครั้งสำคัญ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกแลกเปลี่ยนข้อมูลลับ นำไปสู่การขยายผลยึดและอายัดทรัพย์สินครั้งมโหฬารกว่า 10,165 ล้านบาท พร้อมประกาศสงครามล้างบางช่องโหว่ในตลาดทุน เตรียมสังคายนากฎเกณฑ์ตรวจสอบธุรกรรมครั้งใหญ่ เพื่อไม่ให้ตลาดหุ้นและสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็น "เครื่องซักล้าง" เงินสกปรกของอาชญากรอีกต่อไป! เจาะลึกเบื้องหลังปฏิบัติการกวาดล้างทุนสีเทา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. เกิดความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ณ ห้องประชุมระดับสูง เมื่อ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยกทัพผู้บริหารหารือร่วมกับ นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์...

“….จีนได้นำเสนอแผนและแนวทางการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ตลอดจนหลักธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศร่วมกันทั้งโลก เพื่อบรรลุสู่การสร้างประชาคมโลกที่มวลมนุษยชาติมีชะตากรรมร่วมกันในที่สุด นับเป็นการนำเสนอเชิงรุกที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่ ในกรอบของการยึดมั่นในผลประโยชน์ร่วมกันของชาวโลก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศต่างๆไปพร้อมๆกับประชาชนจีนให้ได้อย่างยั่งยืน จีนกำลังกลายเป็นผู้กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลกยุคใหม่ ที่กำลังเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงยิ่งกว่าครั้งใดๆในรอบร้อยปี สอดคล้องอย่างยิ่งกับคำพังเพยที่ว่า"ตีเหล็กเมื่อร้อน" และ"จะตีเหล็กได้ ก็ต่อเมื่อตนเองแข็งแกร่งพอ" ขณะที่จีนก็เร่งพัฒนาตนเอง ยกระดับการพัฒนาจนแข็งแกร่งเหนือประเทศอื่นใด คือทำการปฏิวัติตนเองอย่างไม่หยุดหย่อน สำหรับการใช้อำนาจบริหารประเทศได้ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดเสมอ ยกระดับอุตสาหกรรมและมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ชนิดไม่เป็นสองรองใคร ขณะเดียวกันก็เร่งนำเสนอแผนความร่วมมือกับนานาชาติดำเนินการจัดระเบียบโลกใหม่ให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน ขจัดระเบียบปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่างๆให้หมดไป ความแข็งแกร่งจากภายในของจีน คือหลักประกันแห่งความสำเร็จร่วมกันของชาวโลก….” https://youtu.be/3Bjyj5SUBgc ปฏิวัติตัวเอง พัฒนาคุณภาพสูง จัดระเบียบโลก自我革命，高质量发展，全球治理 เมกะเทรนด์หรือแนวโน้มใหญ่ของโลกขณะนี้ กำลังย่างเข้าสู่สภาวะ"จีนตีเหล็ก" จีนกำลังยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์ อันเป็นจุดสูงข่มเหนือความชอบธรรมอื่นใดในการสร้างการเปลี่ยนแปลงแปลงใหม่ๆให้แก่สังคมมนุษย์โดยรวมทั้งโลก ไม่ว่าจะมองกันในด้านไหน จีนดูมีความชอบธรรมสูงสุด เช่นการพัฒนาประเทศ ก็เป็นไปอย่างสันติ ด้วยการปฏิรูประบบกลไกให้พร้อมสำหรับการเปิดกว้างสู่โลกภายนอกอย่างไม่ขาดสาย ควบคู่ไปด้วยกันกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการป้องกันประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันมิให้ผลพวงของการพัฒนาถูกทำลาย ทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ จีนก็ได้แสดงบทบาทของความเป็นชาติใหญ่ที่รับผิดชอบ คอยสร้างเงื่อนไขใหม่ๆให้แก่การพัฒนาก้าวหน้าของประเทศที่กำลังพัฒนา ยื่นมือเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูประเทศที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติหรือภัยสงครามภายใต้กรอบกำหนดของกฎบัตรสหประชาชาติเช่นการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปปฏิบัติภารกิจในหลายๆประเทศในนามองค์การสหประชาชาติ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือจีนได้นำเสนอแผนและแนวทางการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ตลอดจนหลักธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศร่วมกันทั้งโลก เพื่อบรรลุสู่การสร้างประชาคมโลกที่มวลมนุษยชาติมีชะตากรรมร่วมกันในที่สุด นับเป็นการนำเสนอเชิงรุกที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่ เนื่องจากข้อเสนอต่างๆล้วนแต่มีนัยครอบคลุมทั่วทั้งโลก โดยทั้งหมดนั้น...