วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
หน้าแรกสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้มเปิดปฏิบัติการ “พลิกฟื้นเส้นเลือดใหญ่”

เปิดปฏิบัติการ “พลิกฟื้นเส้นเลือดใหญ่”

“…20 กันยา “วันอนุรักษ์แม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ” ปีนี้ไม่เหมือนเดิม! เมื่อ “ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์” ปลัดหญิง แห่ง ทส. ประกาศกร้าวกลางเวที “ทส. รวมใจ อนุรักษ์แม่น้ำ คู คลอง” ถึงเวลาพลิกฟื้นสายน้ำทั่วประเทศด้วยนโยบายเชิงรุก ดึงแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (National Adaptation Plan: NAP)” เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่คุกคามแหล่งน้ำของไทย พร้อมส่งสัญญาณถึงความร่วมมือทุกภาคส่วน นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของการกอบกู้วิถีชีวิตริมน้ำได้หรือไม่?…”

กลับมาอีกครั้งกับวันที่ 20 กันยายน “วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ” วันที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเสด็จประพาสคลองแสนแสบอันเป็นจุดเริ่มต้นของการพลิกฟื้นชีวิตให้ลำคลอง แต่ทว่าในปี 2568 นี้ บรรยากาศกลับคึกคักและน่าจับตามองเป็นพิเศษ ภายใต้การนำของ ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มีการจัดกิจกรรม “ทส. รวมใจ อนุรักษ์แม่น้ำ คู คลอง” ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีสาระสำคัญที่ถูกส่งออกมาอย่างชัดเจนว่า การอนุรักษ์แหล่งน้ำจะไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดกิจกรรมรณรงค์รายปีอีกต่อไป

ไฮไลท์สำคัญของงานอยู่ที่คำประกาศของ ดร.ชญานันท์ ที่เชื่อมโยงปัญหาสายน้ำเสื่อมโทรมเข้ากับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มรูปแบบ ท่านปลัดฯ ได้เน้นย้ำว่า ทส. ได้บรรจุนโยบายการจัดการทรัพยากรน้ำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (National Adaptation Plan: NAP)” แล้ว

“วันนี้เราไม่ได้พูดแค่เรื่องขยะหรือน้ำเสีย แต่เรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่กว่า นั่นคือภาวะโลกร้อนที่ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณและคุณภาพน้ำของเรา แผน NAP จะเป็นกรอบการทำงานที่ชัดเจน ทำให้การแก้ปัญหาน้ำมีความยั่งยืนและสามารถรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันได้” ดร.ชญานันท์กล่าว

นี่คือการยกระดับการทำงานที่น่าสนใจ จากเดิมที่เน้นการแก้ปัญหาปลายเหตุ สู่การวางยุทธศาสตร์ระยะยาวที่มองเห็นภาพรวมของปัญหาระดับโลก

อีกหนึ่งนโยบายที่ถูกผลักดันอย่างหนักคือ การเสริมความแข็งแกร่งให้กับ เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ทั่วประเทศ ดร.ชญานันท์ กล่าวยกย่องว่า “ทสม. คือหัวใจของความสำเร็จ พวกเขาคือคนที่อยู่กับแม่น้ำลำคลองทุกวัน คือหูตาและเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้ทุกนโยบายเกิดขึ้นได้จริงในพื้นที่”

การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่า ทส. ภายใต้การนำของปลัดฯ คนปัจจุบัน กำลังเปลี่ยนจากการทำงานแบบรวมศูนย์ มาเป็นการกระจายอำนาจและความรับผิดชอบให้ชุมชนเป็นผู้ดูแลสมบัติของตนเอง

จาก “วันสำคัญ” สู่ “การลงมือทำทุกวัน”

แม้ “วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ” จะเป็นเพียงวันเดียวในหนึ่งปี แต่สิ่งที่ ดร.ชญานันท์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังพยายามสื่อสาร คือการเปลี่ยนวันสำคัญเชิงสัญลักษณ์นี้ให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการลงมือทำอย่างจริงจังในทุกๆ วัน ปฏิบัติการ “พลิกฟื้นเส้นเลือดใหญ่” ของไทยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่จะประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด คงต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

ลั่นไก…ล้มโต๊ะ! ถอดรหัส “วีระ” ชำแหละเกมเขมร “สร้างสถานการณ์” ปมเลือดชายแดน ปฏิบัติการสกัดปักปัน หรือใบสั่ง “มือที่สาม”

https://youtu.be/SSsw8-Vg2GI “...เสียงปืนที่ชายแดน ยังไม่ดังเท่าเสียงท้าทายจาก "วีระ สมความคิด" ที่อัด "อนุทิน" ไม่จริงใจแก้ปัญหาชาติ ซัดภาพน้ำตาเป็นแค่ "ละครการเมือง" ท้าลั่น "ให้ผมเป็นนายกฯ 4 เดือน" จะล้างบางสแกมเมอร์-ทวงอธิปไตยให้ดู... ถาม “ปัญหาอยู่ที่เขมร หรืออยู่ที่ "ผู้นำไทย" ที่ไม่กล้า”?..” “สืบจากข่าว” ทำการถอดรหัสบทวิเคราะห์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จาก “วีระ สมความคิด” หลังเกิดเหตุปะทะล่าสุดที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งทหารไทยต้องสูญเสียอวัยวะ (ขาขาด) เป็นรายที่ 7 และนำไปสู่ท่าที "ขึงขัง" ของนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่า "ปฏิญญาสันติภาพ" ที่เพิ่งลงนามไปนั้น "ยุติ" แล้ว ประเด็นที่ต้องจับตาคือ เหตุการณ์นี้มี “ความคล้ายคลึง” อย่างน่าสงสัย...

“ภาษาจีน “แพร่หลายทุกทิศทาง”“ ทั้งโลกใช้กันทั่วไป “พร้อมกับ “การค้าการลงทุน”

“….ในบริบทที่ทั้งโลกเชื่อมโยงกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทางด้านการรับรู้ ด้วยระบบการสื่อสารไวเท่าแสงหลากหลายช่องทางอย่างเช่นทุกวันนี้ ข่าวคราวความเจริญก้าวหน้าของจีนแพร่กระจายไปทุกทิศทาง สะท้อนถึงพลังการผลิตมหาศาลของจีนที่พวยพุ่งขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด โดยมีผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีล้ำยุคเป็นตัวนำ จากนี้ จึงไม่มีเหตุผลใดๆที่จะมายับยั้งการแพร่หลายของภาษาจีนไปทั่วโลก จะมากขึ้นและเร็วขึ้นตามการขยายตัวในมิติต่างๆของจีน ซึ่งในระดับรัฐ โครงการ"ขงจื่อเสวเวี้ยน" หรือสถาบันภาษาจีนขงจื่อได้กระจายแพร่หลายไปในหลายสิบประเทศ สามารถผลิตบุคลากรทางด้านภาษาจีนที่มีมาตรฐานในทุกทวีปนับหมื่นนับแสน และในระดับท้องถิ่น มีโรงเรียนสอนภาษาจีนเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด โดยแต่ละโรงเรียนจะได้รับแรงสนับสนุนจากชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลอย่างแข็งขัน ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศมาเลเซีย ที่ได้ดำรง"ระบบนิเวศ" การสอนภาษาจีนที่เป็นของตนเองได้สมบูรณ์ที่สุด เป็นรองเพียงแผ่นดินใหญ่จีนเท่านั้น จำนวนนักเรียนที่เรียนภาษาจีนนับวันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะในประเทศที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับจีนมากๆ เช่นลาว เวียดนาม หรือกระทั่งประเทศไทย…” https://youtu.be/UwcZZGLHmb0 ภาษาจีน ทั้งโลกใช้กันทั่วไป 中文,全球通用 ยังครับ สิ่งที่ผู้เขียนพาดหัวนี้ ปัจจุบันยังไม่ปรากฏนะครับ แต่ก็เชื่อได้ว่า มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วย ด้วยแนวคิดที่ยึดเอาประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของพลังการผลิตเป็นฐาน การบริหารปกครองเป็นองค์ประกอบ ทำให้ผู้เขียนสามารถล้วงลึกลงไปถึงแก่นแท้ของการขับเคลื่อนของกงล้อประวัติศาสตร์ แล้วสะท้อนออกมาเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปธรรมที่เราๆท่านๆเข้าใจได้ อีกนัยหนึ่ง ผู้เขียนใช้เครื่องมือชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่าวัตถุนิยมประวัติศาสตร์จับทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลก เข้าถึงกฏเกณฑ์การขับเคลื่อนของสังคมโลก โดยเฉพาะในบริบทที่ทั้งโลกเชื่อมโยงกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันทางด้านการรับรู้ ด้วยระบบการสื่อสารไวเท่าแสงหลากหลายช่องทางอย่างเช่นทุกวันนี้ สิ่งที่ผู้เขียนนำเสนอย่อมง่ายมากที่จะเป็นที่เข้าใจของคนทั่วไป ที่เด่นชัดที่สุดก็เรื่องจีน...

 “รบ.ล้มเหลวรอบด้าน” จ่อยุบสภาหนีตาย!

https://youtu.be/QnCW0rEojgk “..."ไพศาล พืชมงคล" มองทะลุเกม วิเคราะห์ 5 ปมร้อน ชี้เป้าสัญญาณอันตราย! ตั้งแต่ "สงครามยืดเยื้อ" ชายแดนที่กำลังสูบเลือดประเทศไทยหมื่นล้าน สู่ "แผลเน่า" ใน สตช. ที่ถูกตีตราองค์กรโจร, "วาระแห่งชาติ" ปาหี่, และ "นิรโทษป่าไม้" ที่ขัด รธน. ทั้งหมดคือเกมที่กำลังบีบให้รัฐบาลเลือก... ระหว่าง "ยุบสภา" หรือเปิดทางให้ "นายกฯ คนนอก" ที่ชื่อ "เศรษฐพุฒิ"? นี่คือการแก้ปัญหาของรัฐบาล “อนุทิน” ที่ถูกมองว่า "ลิเกโรงใหญ่" ที่มีเดิมพันสูงกว่าที่คิด?...” สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงคุกรุ่นดุจภูเขาไฟรอวันปะทุ ล่าสุดทหารไทยสูญเสียขาจากกับระเบิดไปแล้วถึง 11 ขา แต่ท่าทีของรัฐบาลกลับเป็นการประกาศ...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.