ตามข้อสั่งการ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ให้เฝ้าระวังติดตามการกระทำความผิดทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ สายตรวจไซเบอร์ กก.2 บก.สอท.3 จึงเข้าไปสังเกตการณ์ในเพจแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมปรากฏพบเพจเฟซบุ๊ก “บ้านอิงผา ภูทับเบิก” มีลูกค้าเข้าไปกดสติกเกอร์โมโหเป็นจำนวนมาก จึงเข้าไปขอเพิ่มเพื่อนเพื่อพูดคุยสืบสวนหาข้อมูล ได้ความว่าที่ส่งสติกเกอร์โมโหไปแบบนั้น เพราะถูกเพจเฟซบุ๊กนี้หลอกให้จองห้องพัก
พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 สอท.3 จึงสั่งการให้รวบรวมข้อมูลและประสานผู้เสียหายเข้าแจ้งความ จากการสืบสวนพบว่าเพจ “บ้านอิงผา ภูทับเบิก” มีเพจปลอมถึง 29 เพจ มีผู้เสียหายจากการจองที่พักรวมกันกว่า 40 คน ความเสียหายเคสไอดีนี้เป็นเงินประมาณ 80,000 บาท และมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการหลอกลวงจองที่พักรีสอร์ท จำนวน 24 เคสไอดี ความเสียหายรวมเป็นเงินประมาณ 3,404,571 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา 6 คน
ต่อมา พ.ต.ท.ชัยวงศ์ ทองน้อย สว.ปรก.กก.2 บก.สอท.3 ได้นำหมายค้น เข้าค้นในพื้นที่อำเภอแม่สาย สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นบัญชีม้าที่มีความใกล้ชิดเชื่อมโยงกับคนกดเงิน บัญชีแถว 1 น.ส.เพ็ญ (นามสมมุติ) บัญชีม้าแถวที่ 2 น.ส.ธัญ (นามสมมุติ) และบัญชีม้าแถว 3 นายขัต (นามสมมุติ) บัญชีม้าแถวที่ 4 นายวี (นามสมมุติ) เชื่อมโยงใกล้ชิดคนกดเงิน และมีเงินที่สามารถอายัดได้ทันเตรียมคืนผู้เสียหาย ต่อจากนี้จะดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลือ และขยายผลต่อไป
จึงฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน สำหรับสายเที่ยวที่ชอบหาที่พักราคาถูก ตามเพจต่างๆ ต้องระมัดระวังให้ดี เพราะมิจฉาชีพสร้างเพจปลอมเลียนแบบเพจที่พักจริงเป็นจำนวนมาก โดยการไปหาซื้อเพจที่มีผู้ติดตามจำนวนมากมาสร้างเพจเลียนแบบ ควรหาจองที่พักตามแพลตฟอร์มชื่อดังที่มีมาตรฐานได้รับการการันตี จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบสามารถแจ้งความออนไลน์ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือแจ้งสายด่วน (AOC 1441) ได้ตลอด 24 ชม.