“…ผู้เสียหายถูกยักยอกเงินสหกรณ์ ก.เกษตร กว่า 4 แสนบาท โอดคนทำเป็นเพื่อนคบหากันมากว่า 20 ปี ผกก.นางเลิ้ง เผยมูลค่าเสียหายทั้งหมดยังสรุปไม่ได้ ต้องรอ จนท. กระทรวงฯ รวบรวมตัวเลข…”
จากกรณีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด พบความผิดปกติในยอดเงินบัญชีออมทรัพย์เมื่อตรวจสอบพบว่ามีเงินหายไป ซึ่งมาจากเจ้าหน้าที่สองรายทำการยักยอกเงินไป เบื้องต้นพบว่ามีความเสียหายกว่า 212 ล้านบาท ขณะที่ทางสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ส่งตัวแทนเข้ามาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดสองราย ซึ่งเป็นผู้จัดการสหกรณ์ กับเจ้าหน้าที่ที่สหกรณ์ที่ทำหน้าที่รับฝากถอนเงิน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2565 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่า ภายในกระทรวงยังมีผู้เสียหายบางส่วนเดินทางมาเพื่อตรวจสอบบัญชี หลังจากทราบข่าวว่ามีการยักยอกเงินจากบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยมีมูลค่าความเสียหาย 212 ล้านบาท ซึ่งทำให้สมาชิกบางรายเกิดความกลัวว่าจะตกเป็นผู้เสียหาย จึงเดินทางมาตรวจสอบ ก่อนพบว่าเงินในบัญชีสูญหายไปกว่า 4 แสนบาท
โดย นางแอ๋ว เปิดเผยว่า ตนเคยเป็นข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ มาก่อน ซึ่งก็นำเงินออมมาฝากไว้ที่สหกรณ์ดังกล่าวตั้งแต่เริ่มรับราชการ เพราะให้ดอกเบี้ยสูง และหวังจะไว้ใช้ในบ้านปลายชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ จนกระทั่งช่วงหลังๆ มีข่าวการยักยอกเงินสหกรณ์กันบ่อยมาก จึงเริ่มไม่ค่อยแน่ใจ จึงได้เดินทางมาถอนเงินออกไปก้อนหนึ่ง แต่ยังเหลือติดบัญชีไว้ส่วนหนึ่งแต่ไม่มากนัก จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นวันนี้ จึงมาตรวจสอบบัญชีพบว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปกว่า 4 แสนบาท เจ้าหน้าที่ได้นำ statement ย้อนหลังมาให้ดูรายการเบิกถอน ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้เบิกถอน และสมุดบัญชีก็อยู่กับตนตลอด จึงคิดว่าน่าจะมีการทำบัญชีปลอมอีกบัญชีขึ้นมาหรือไม่ เพื่อทำการปลอมลายเซ็นเบิกถอน
“รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคงไม่ไว้ใจที่จะนำเงินไปฝากกับสถาบันการเงินในรูปแบบสหกรณ์อีกแล้ว เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุแบบนี้อีก และอยากฝากไปถึงผู้ก่อเหตุ ซึ่งเอาจริงๆ ก็เปรียบเสมือนเพื่อน เพราะรู้จักกันมานาน ทำแบบนี้เขามีความสุขอยู่ดีหรือไม่ ทำกับเพื่อนๆ ที่คบหากันมากว่า 20 ปีได้อย่างไร บางคนที่นำเงินมาฝากเป็นเงินที่เกือบทั้งชีวิตของคนคนนั้นเลย เขาทำได้อย่างไร” นางแอ๋ว กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ยิ่งยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายทั้งหมดยังไม่สามารถสรุปได้ ซึ่งต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เป็นผู้รวบรวมยอดมูลค่าความเสียหายเพิ่มเติมแล้วจึงนำมาให้พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ตรวจสอบ ส่วนการตั้งคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีนี้ ตนได้ส่งเรื่องเข้าไปยังกองบังคับการแล้ว อยู่ระหว่างรอการเซ็นอนุมัติ