วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 31, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมป.ป.ช. สนธิกำลังร่วม ปปป. และ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “3 ป. จับเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมเรียกรับเงิน”

Related Posts

ป.ป.ช. สนธิกำลังร่วม ปปป. และ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “3 ป. จับเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมเรียกรับเงิน”

วันนี้ (31 กรกฎาคม 2567) สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ มอบหมายให้นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการสืบสวนกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงาน ป.ป.ท. เข้าจับกุม นายชาตินรินทร์ เกตุกำพล พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.60/2567 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นพนักงานอัยการ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 มาตรา 201 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 โดยเข้าจับกุมที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งเบาะแสกับสำนักงาน ป.ป.ช. เกี่ยวกับพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ปฏิบัติหน้าที่ผู้กลั่นกรองงาน ได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเพื่อแลกกับการพิจารณาทำความเห็นเพื่อสั่งไม่ฟ้องคดี ในคดีที่ผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช และสำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้อนุมัติให้เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และร่วมกับ บก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อวางแผนเข้าทำการจับกุมดังกล่าว

ภายหลังการจับ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 และได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts