วันพุธ, ธันวาคม 4, 2024
หน้าแรกคอลัมนิสต์สืบจากข่าวไม่พบชื่ออดีตนายพลเอี่ยว!

Related Posts

ไม่พบชื่ออดีตนายพลเอี่ยว!

“…โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยัน 3 รายชื่อผู้ต้องหาค้าอาวุธและยาเสพติด ที่ถูกจับกุมที่สหรัฐฯ ตรวจสอบข้อมูลแล้วทุกเหล่าทัพ ไม่พบรายชื่อว่าเคยรับราชการทหาร หรือเป็นทหารเกษียณอายุ…”

สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ว่า สหรัฐได้จับกุมหัวหน้ากลุ่มยากูซ่าชาวญี่ปุ่น และชายชาวไทย 3 คน พร้อมกล่าวหาว่า พวกเขาทำการค้าเฮโรอีนและเมทแอมเฟตามีน และพยายามครอบครองขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ เพื่อส่งต่อให้กลุ่มติดอาวุธในเมียนมาและศรีลังกา

กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ แถลงการณ์ว่า เมื่อวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา นายทาเคชิ เอบิซาวะ, นายสมภักดิ์ รักษ์สราณี, นายสมภพ สิงห์ศิริ, และนายสุขสันต์ จุลนันท์ ถูกจับกุมในรัฐนิวยอร์ก ในข้อหาซื้อขายยาเสพติดและอาวุธ และกระทำการฟอกเงิน

“ยาเสพติดถูกกำหนดส่งตามท้องถนนในนครนิวยอร์ก และอาวุธจะถูกส่งไปให้กลุ่มต่างๆ ในประเทศที่ไม่มั่นคง” นายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐจากเขตทางตอนใต้ของรัฐนิวยอร์ก กล่าวในรายงาน “สมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาตินี้ ไม่สามารถสร้างอันตรายได้อีกต่อไป”

ผู้ต้องหาทุกรายถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ (ดีอีเอ) ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2562 จัดการขายยาเสพติดลอตใหญ่ให้กับเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ เป็นเฮโรอีนและเมทแอมเฟตามีนจากกองทัพรวมแห่งรัฐว้าของเมียนมา (ยูดับเบิลยูเอสเอ) กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในพื้นที่ชายแดนของประเทศที่ติดกับจีน

เอบิซาวะ วางแผนที่จะซื้ออาวุธอัตโนมัติ จรวด ปืนกล และขีปนาวุธพื้นสู่อากาศให้กับยูดับเบิลยูเอสเอ เช่นเดียวกับกลุ่มติดอาวุธอีก 2 กลุ่มในเมียนมา คือ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) และกองทัพรัฐชาน (เอสเอสเอ)

กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจด้วยการรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2564 และต่อสู้กับความขัดแย้งมานานนับปี ซึ่งไม่ใช่แค่กลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ชายแดนเท่านั้น แต่รวมไปถึงกลุ่มที่เรียกว่า กองกำลังป้องกันภาคประชาชน (พีดีเอฟ) ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มพลเรือนที่ได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานและการสนับสนุนจากกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อีกด้วย

นอกจากนี้ สหรัฐได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หัวหน้าองค์กรอาชญากรรมมีความต้องการที่จะซื้ออาวุธให้กับ ขบวนการปลดปล่อยพยัคฆ์ทมิฬอีแลม (แอลทีทีอี) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พยัคฆ์ทมิฬ กลุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันออกของศรีลังกา ซึ่งต่อมาถูกจัดการในปี 2552 และหัวหน้ากลุ่มได้ถูกสังหาร กระทรวงยุติธรรมได้เปิดเผยรูปของเอบิซาวะ ในเสื้อโค้ตหนังสีน้ำตาล โดยพาดเครื่องยิงจรวดไว้บนไหล่ ในระหว่างการนัดซื้อขาย

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ปีที่แล้ว นายเอบิซาวะ อายุ 57 ปี และพรรคพวก ได้เดินทางไปยังกรุงโคเปนเฮเกน ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีอีเอนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบของเดนมาร์ก 2 นาย ได้เข้าแสดงตัวพร้อมกับรายการขายอาวุธกองทัพสหรัฐอย่างชัดเจน ซึ่งรวมไปถึงปืนกลและจรวดต่อต้านรถถัง ใบรายการสินค้ายังได้แนบรูปเอบิซาวะ ที่กำลังถือเครื่องยิงจรวดในระหว่างการนัดซื้อขายอีกด้วย

อีกทั้งพวกเขายังได้แสดงภาพถ่ายของนายเอบิซาวะ และวิดีโอขีปนาวุธสติงเกอร์ ที่ใช้เล็งเป้าหมายอากาศยาน

“พวกเราได้ตั้งข้อหาการซื้อขายผ่านนายหน้าของนายเอบิซาวะ และผู้สมรู้ร่วมคิดของเขา จากเจ้าหน้าที่ดีอีเอนอกเครื่องแบบ เพื่อซื้ออาวุธหนัก และจัดขายยาเสพติดผิดกฎหมายจำนวนมาก” กระทรวงยุติธรรม กล่าว

ในระหว่างการสอบสวน นายเอบิซาวะให้การแก่เจ้าหน้าที่ดีอีเอนอกเครื่องแบบว่า นายสุขสันต์ ที่มีสัญชาติสหรัฐ-ไทย เป็นอดีตนายพลกองทัพอากาศไทย และนายสมภักดิ์ เป็นอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพไทย ที่ปลดเกษียณแล้ว ตามที่ข้อกล่าวหาระบุไว้

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.2565 พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ตามที่มีการเสนอข่าว การจับกุมขบวนการค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติดและการฟอกเงิน โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เมื่อ 4 – 5 เม.ย. 65 ณ นครนิวยอร์ก ที่ผ่านมา โดยมีการกล่าวอ้าง ซัดทอดคลุมเครือถึงผู้ต้องหาคนไทยที่ถูกจับกุม 3 คน คือ นายสุขสันต์ จุลานนท์ นายสมภพ สิงห์สิริ และ นายสมภักดิ์ รักษ์สราณี เป็นอดีตนายทหารชั้นนายพลและนายทหารที่ปลดประจำการแล้วนั้น

กระทรวงหลาโหม ได้ดำเนินการตรวจสอบรายชื่อบุคคลทั้ง 3 ในระบบฐานข้อมูลกำลังพลของกลาโหม และทุกเหล่าทัพแล้ว ไม่พบรายชื่อบุคคลทั้ง 3 เป็นข้าราชการทหารแต่อย่างใด ทั้งที่เกษียณอายุราชการแล้ว และยังรับราชการอยู่ จึงขอขอบคุณสื่อมวลชนร่วมนำเสนอข่าว ซึ่ง กลาโหมพร้อมสนับสนุนข้อมูล เพื่อการนำเสนอข่าวสารที่ถูกต้องแก่สังคมต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts