“…2 มือระเบิดปิงปอง ชวดประกัน! ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหาเคยถูกกล่าวหาต่อศาลนี้ในข้อหามีและใช้วัตถุระเบิดมาแล้ว คดีนี้ถือว่าเป็นคดีมีความร้ายแรง อัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เชื่อว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว…”
13 เม.ย. 2565 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกนายพรพจน์ แจ้งกระจ่าง อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาคดีปาระเบิดปิงปองหน้าประตู กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ซึ่งภายในเป็นที่ตั้งบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 เม.ย ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 205/2565 ลงวันที่ 11 เม.ย.2565 ข้อหาร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือต่อทรัพย์ของผู้อื่น, พาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
กรณีผู้ต้องหานี้ ได้ร่วมกับพวกรวม 7 คน มี นายธนายุทธ ณ อยุธยา อายุ 20 ปี แร็ปเปอร์ชื่อดัง น.ส.ปฏิมา ฝากทอง อายุ 20 ปี และเยาวชนชาย ได้ไปร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มม็อบทะลุฟ้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเลิกชุมนุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขับรถจักรยานยนต์และนั่งซ้อนท้ายกันมารวม 3 คัน มาจอดบริเวณใต้ด่วนแยกดินแดงจากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต่อไปตามถนนวิภาวดี(ขาออก) มุ่งหน้าแยกสุทธิสาร โดยรถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คันขับตามกันมาในระยะกระชั้นชิดกัน มาถึงบริเวณหน้าประตูเสด็จ ข้างกองรักษาการณ์ กรม ทม.1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนในเขตพญาไท แขวงสามเสนใน เขตพญา ได้ปาระเบิดปิงปอง 2 ลูก จนเกิดเหตุระเบิดดังขึ้น จำนวน 2 ครั้ง จากนั้นผู้ต้องหาได้พากันหลบหนี โดยนายพรพจน์ หลบหนีไปที่ จ.พิษณุโลก ก่อนถูกจับกุมตัวได้ ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง และอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 -24 เม.ย.นี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจาก คดีมีอัตราโทษสูง เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลสอบถามแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตามศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหาเคยถูกกล่าวหาต่อศาลนี้ในข้อหามีและใช้วัตถุระเบิดมาแล้ว คดีนี้ถือว่าเป็นคดีมีความร้ายแรง อัตราโทษสูงผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เชื่อว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวนายพรพจน์ไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ