วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
หน้าแรกภูมิภาคจันทบุรี /ชลประทานลงพื้นที่รับฟังข้อมูลเชิงลึกเกษตรกร-อีสวอเตอร์เร่งทำEHIA พัฒนา“อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด”จ.จันทบุรี

Related Posts

จันทบุรี /ชลประทานลงพื้นที่รับฟังข้อมูลเชิงลึกเกษตรกร-อีสวอเตอร์
เร่งทำEHIA พัฒนา“อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด”จ.จันทบุรี

ชลประทานลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวสวนทุเรียน ยาพารา และอีสวอเตอร์ ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก สรุปความเห็น สู่กระบวนการจัดทำรายงาน EHIA ฉบับสมบูรณ์ทุกมิติ สู่เป้าหมายการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านการบริหารจัดน้ำทุกภาคส่วน ทั้งอุปโภค-บริโภค อุตสาหกรรม มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคตะวันออก
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้ นำคณะผู้บริหาร และสื่อมวลชนลงพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง เพื่อพบปะเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำลุ่มแม่น้ำวังโตนด และบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เพื่อร่วมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในแผนวางระบบท่อส่งน้ำเพื่อชลประทานในภาคการเกษตร โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรสวนผลไม้ทุเรียน และยางพารา รวมถึงผู้ให้บริการส่งน้ำภาคอุตสาหกรรม ในขั้นตอน “การติดตามการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและความเข้าใจภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด” ควบคู่ไปกับการศึกษาระบบการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ที่จะรองรับการขยายตัวของการลงทุนในเขตพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วยโครงข่ายระบบท่อส่งน้ำ ที่มั่นใจว่าจะสามารถป้อนน้ำให้เพียงพอ พร้อมกับเพิ่มกับน้ำต้นทุนสำรองไว้ใช้ในภาคส่วนต่างๆ อย่างสมดุล ซึ่งข้อมูลความคิดเห็นที่ได้ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เป้าหมายการดำเนินการครั้งนี้ เป็นไปตามข้อเสนอแนะของ ทางคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เปิดโอกาสให้เพิ่มขบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในวงกว้างมากขึ้น เพื่อยกระดับความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับชุมชนในเชิงลึกของการพัฒนาโครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแผนการพัฒนาโครงการที่สามารถสร้างประโยชน์ในทุกภาคส่วนครบถ้วนทุกมิติ

ทั้งนี้ยังได้มีการติดตามข้อมูลปริมาณความต้องการใช้น้ำในส่วนของภาคประกอบการในพื้นที่นิคมฯอุตสาหกรรมมาบตาพุด จากบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เพื่อรวบรวมข้อมูลของความต้องการใช้น้ำให้สอดรับกับความต้องการใช้จริงในปัจุจบันและในระยะยาว เนื่องจากการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จะเป็นหนึ่งในโครงข่ายเชื่อมโยงระบบส่งน้ำของพื้นที่ภาคตะวันออก ที่มีแผนการส่งน้ำส่วนเกินสนับสนุน เพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนในพื้นที่ EEC ในช่วงฤดูมรสุม
ความสำคัญของการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด เป็นโครงการที่เพิ่มพื้นที่ระบบชลประทานเพื่อสนับสนุนภาคเกษตรที่ได้รับประโยชน์ครอบคลุม 3 อำเภอ คือ อ.ท่าใหม่ อ.นายายอาม และ อ.แก่งหางแมว เนื่องจากจะสร้างประโยชน์ต่อการใช้น้ำให้กับทุกภาคส่วน ทั้งด้านการเกษตร ที่นา สวนผลไม้ ที่ครอบคลุมในพื้นที่การเกษตร 87,700 ไร่ ใน 3 อำเภอ คือ อ.ท่าใหม่ อ.นายายอาม และ อ.แก่งหางแมว ที่สามารถกักเก็บน้ำได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการใช้ อีกทั้งโครงการดังกล่าว ยังสามารถลดผลกระทบความเสียหายจากอุทกภัยและภัยแล้ง ในพื้นที่เกษตร ได้ถึง 5,575 ไร่ ที่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับประชาชน และภาคเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป้าหมายเป็นไปเพื่อให้เกิดการพัฒนาทั้งระบบ เศรษฐกิจ สังคม การดูแลสิ่งแวดล้อม และฟื้นฟูระบบนิเวศของป่าไม้ และสัตว์ป่า ได้อย่างครบถ้วน
สำหรับแผนพัฒนาลุ่มน้ำตคลองวังโตนดที่ ชป. ได้ดำเนินการมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.อ่างเก็บน้ำคลองประแกด ความจุ 60.25 60.26 ล้าน ลบ.ม. ก่อสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะนี้ 2.อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ความจุ 80.70 ล้าน ลบ.ม. 3. อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ ความจุ 68.10 ล้าน ลบ.ม.ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และ 4. อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด ความจุ 99.5 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้ง 4 แห่ง มีความจุรวมกัน 308.56 ล้าน ลบ.ม. สามารถส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์ทั้งสิ้น 267,800 ไร่ รองรับความต้องการน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาได้ปีละ 45 ล้าน ลบ.ม. รวมถึงการจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำส่วนเกินป้อนไปยังอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ EEC เพื่อสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกสวนผลไม้ ภาคอุตสาหกรรมในเขต จ.ระยอง และ จ.ชลบุรีอีกด้วย

ด้านนายศุภทรรศ สาพิมาน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริการลูกค้า บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการจัดส่งน้ำดิบเข้าสู่ระบบ การผลิตของโรงงาน และสาธารณูปโภคในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยการบริหารจัดการระบบขนส่งน้ำดิบผ่านท่อส่งน้ำ ขนาดใหญ่ให้แก่ภาคอุตสาหกรรม และเพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่นิคมฯ อุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ โดยการวางโครงข่ายผันน้ำผ่านท่อส่งน้ำดิบจากแหล่งน้ำดิบ (อ่างเก็บน้ำหลักใน 3 จังหวัด) มาให้ภาคอุตสาหกรรม ในพื้นที่ EEC ทั้งนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในหลายโครงการ อาทิ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบผันน้ำแม่น้ำบางปะกง-อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี, โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและปริมาณการจ่ายน้ำท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ จ.ชลบุรี, โครงการสระทับมา จ.ระยอง และโครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำดิบอ่างเก็บน้ำคลองหลวง-ชลบุรี โครงการปรับปรุงเครือข่ายอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่-หนองปลาไหล จ.ระยอง, โครงการปรับปรุงคลองพานทองเพื่อผันน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ต้องขับเคลื่อนในระยะต่อไป ซึ่งเป็นโครงการที่สำคัญสำหรับการบริหารจัดการน้ำของภาคตะวันออกทั้งระบบ ได้แก่ โครงการเครือข่ายอ่างประแสร์-หนองค้อ-บางพระ จ.ชลบุรี, โครงการเครือข่ายน้ำอ่างคลองโพล้-อ่างประแสร์ และโครงการเครือข่ายคลองวังโตนด-อ่างประแสร์ จ.ระยอง” เชื่อมั่นว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จการจัดน้ำจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าในอดีต เพราะปัจจุบันมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องอุทุกภัยและภัยแล้งมากขึ้น

ทั้งนี้ความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตร ในกลุ่มผลไม้ 5 ชนิด ของจ.จันทรบุรี ที่มีความต้องการใช้น้ำที่แตกต่างกัน อาทิ ทุเรียน ใช้น้ำวันละ 320-500 ลิตรต่อต้นต่อวัน มังคุด ใช้น้ำวันละ 1,100-1,600 ลิตรต่อต้นต่อวัน เงาะ ใช้น้ำวันละ 180- 320 ลิตรต่อต้นต่อวัน ลองกอง ใช้น้ำวันละ 20 ลิตรต่อต้นต่อวัน และลำไย ใช้น้ำวันละ 4,400 – 6,600 ลิตรต่อต้นต่อวัน ซึ่งทำให้ จ.จันทบรีสามารถมีแหล่งผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน และประเทศ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts