สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา, กลุ่มเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ และการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาขนจากนายทุนปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 ผู้เสียหายได้มาร้องเรียนขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องเงินกู้นอกระบบ ว่าตนเองได้ติดต่อไปหาบัญชีเฟซบุ๊ก “Sattaya” ผ่านทางช่องแชทเพื่อขอกู้เงิน รวมทั้งหมด 3 ครั้งเป็นเงิน 3,500 บาท โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 350 บาท จนกว่าจะนำเงินต้นมาจ่ายครบ ซึ่งคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อวัน หรือร้อยละ 300 ต่อเดือน หรือร้อยละ 3,600 ต่อปี โดยเจ้าหนี้ได้โอนเงินให้กับผู้เสียหาย และตนเองได้ส่งจ่ายดอกเบี้ยเรื่อยมา จนกระทั่งไม่สามารถหาเงินต้นและดอกเบี้ยมาจ่ายให้กับเจ้าหนี้ได้ จึงถูกเจ้าหนี้มาหาที่ทำงาน ข่มขู่ และยังนำรูปโป๊เปลือยผู้เสียหาย ไปประจานบนเฟซบุ๊กให้อับอาย
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนการกระทำความผิดของผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว โดยจะอยู่ในกลุ่มประวัติคนโกงที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้เงิน ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณะ และผู้เป็นเจ้าหนี้มักจะมีการไปแสดงความคิดเห็นในเชิงปล่อยกู้ ตามโพสต์ลักษณะดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติขอให้ศาลออกหมายค้น
ต่อมา ว่าที่ พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายค้น เข้าค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เมื่อถึงบ้านหลังดังกล่าวพบนายสัตยา อายุ 41 ปี โดยนายสัตยายอมรับว่าได้ปล่อยให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป