เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.67 ที่ บช.ก. อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พานาย ต.(นามสมมุติ) เข้าพบ พงส.บก.ปคม.ขอความช่วยเหลือหลังตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกหลอกไปเป็นบัญชีม้าที่ประเทศเพื่อนบ้าน หวังจะได้เงิน แต่มากลับบ้านพบมีหมายเรียกจากตำรวจทั่วประเทศจำนวนกว่า 450 หมาย !!
อี้แทนคุณ กล่าวว่า ผู้เสียหายถูกหลอกอ้างว่าจะให้ไปทำงานเอ็นเตอร์เทน ดูแลแขกนักดื่ม ที่กัมพูชา จะได้รายได้ดี ทำ 7 วันได้เงิน 2 หมื่นบาท ออกผ่านชายแดนที่อรัญประเทศมีรถตู้มารอรับไปอีกฝั่ง เอาตัวไปไว้ที่ตึกเรือนแรกรับก่อน ถามว่ามีบัญชีธนาคารอะไรอยู่ ก่อนเอามือถือไปเปิดเพิ่มอีกนับสิบบัญชี ทั้งไทยพาณิชย์ กรุงไทย กสิกร พร้อมโหลดแอปของธนาคารเหล่านั้นระหว่างที่อยู่ที่นั่นก็จะเอามือถือไปเล่นพนันออนไลน์ต่างๆ ใช้เป็นบัญชีม้าหลอกให้คนโอนเงินเข้าก่อนโอนต่อไป ถ้าใครที่ไปอยู่แล้วไม่ร่วมมือก็จะโดนจับโยนลงจากชั้นสามลงมา ตลอดจนถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากหมดประโยชน์เพราะมือถือไม่สามารถใช้งานต่อได้ก็จะส่งกลับประเทศไทย
นาย ต. เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพรับจ้างเอ็นเตอร์เทนแขกดื่มเหล้าในเวลากลางคืน ทำเพื่อเอาตัวรอด หาเงินดูแลครอบครัว มีลูกค้าเก่าเป็นคนแนะนำให้ไปทำงานเอ็นฯ ที่กัมพูชา บอกรายได้ดี ทำงานสัดปาห์เดียวได้เงิน 20,000 บาท จึงตัดสินใจไปลองดู เขาก็โอนเงินค่ารถมาให้ แต่พอไปถึงแล้วแทบพูดไม่ออกเลย มีคนไทยจำนวนมากอยู่ที่นั่น อยู่กันเต็มตึก มีบ้านอยู่เป็นหลังๆ
โดยไปที่หลังบิ๊กซี จะมีคนพาข้างแดนแล้วนั่งรถตู้ต่อไปบ้านแรกรับซึ่งจะเป็นจุดที่คนไทยข้ามไปและข้ามกลับมา ที่เห็นคนถูกส่งกลับจะเป็นคนแก่ชราหมดสภาพเพราะบัญชีถูกอายัดหมด สแกนหน้าแอปฯ ธนาคารไม่ผ่านไร้ประโยชน์แล้วทั้งสิ้น
ตนไปอยู่ที่นั่นนาน 7 วัน ไม่เห็นตอนโยนใครลงมาจากตึก 3 ชั้น แค่เห็นศพตอนเช้าๆ ทุกวันเห็นด้วยตาตัวเอง 2 ศพ ซึ่งเป็นคนไทย คุยกันว่าถูกจับโยนลงมาจากตึก 2 วันก่อนถูกส่งกลับได้มีโอกาสไปเดินดูรอบๆ เห็นรถพยาบาลมาขนศพไป เขาเห็นว่าตนนอกจากใช้งทนสแกนหน้าแล้วน่าจะส่งไปประเทศ มาเลย์ พม่าให้ทำงานอื่นได้อีก แต่ตนตัดสินใจกลับบอกเพื่อนที่ทำพนันออนไลน์อยู่ให้มารับตัวพากลับฝั่งได้ ได้เงินมาจริงๆ จำนวน 6 พันบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดที่คนไทยเคยได้ ทำงานสแกนหน้าอย่างเดียวจากทั้งหมด บัญชีธนาคาร 3 เล่ม ออนไลน์อีก 8 บัญชีตนข้ามไปทำงานสแกนใบหน้าบัญชีม้าที่กัมพูชาเมื่อ17 ส.ค. เป็นเวลานาน 7 วัน กลับมาไทยได้เงินมา 6 พันบาท พอ 9 ก.ย.ก็มีหมายเรียกจาก พนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ อุบลราชธานี ให้ไปพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกง ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ พนักงานสอบสวนแจ้งว่าตนมีหมายเรียกจากสถานีตำรวจทั่วประเทศจำนวน 450 พร้อมกับแนะนำให้ตนเขียนคำร้องขอให้การที่เดียว จะได้ไม่ต้องตระเวนไปทุกแห่งที่ออกหมายเรียกมา
อี้แทนคุณ บอกต่อก่อนหน้าเคสนาย ต.ก็มีหญิงอีกคนถูกหมายเรียกจำนวนมากแบบเดียวกันนี้แต่ตำรวจ สน.อุดมสุขไม่รับฟัง ส่งตัวฟ้องศาล ตนไม่เข้าข้างคนเปิดบัญชีม้า แต่อยากให้เข้าใจเขาที่ถูกคนหลอกไปเปิดบัญชีม้าจนสร้างความเสียหายทางออนไลน์จำนวนมาก เชื่อว่าทุกคนเจ็บแค้นคนเป็นเจ้าของบัญชีม้า แต่มามองอีกมุมหนึ่งเขาเองก็ถูกหลอกไปเข้าข่ายค้ามนุษย์ จะผิดถูกก็ให้ตำรวจดำเนินคดีศาลตัดสินกันนอกจากถูกหลอกไปเปิดบัญชีม้าแล้านาย ต.ยังถูกละเมิดทางเพศด้วยการข่มขืนทวารหนักด้วย