วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 9, 2025
หน้าแรกท้องถิ่นรวบโจรปลอมเป็นเถ้าแก่ หลอกขายเฟรมจักรยานแบรนด์ดังระดับโลก เกลี้ยงโกดังเสียหายกว่า 4 ล้านบาท

Related Posts

รวบโจรปลอมเป็นเถ้าแก่ หลอกขายเฟรมจักรยานแบรนด์ดังระดับโลก เกลี้ยงโกดังเสียหายกว่า 4 ล้านบาท

ตร.บางละมุง รวบหนุ่มแสบ! บุกกวาดเฟรมจักรยาน แบรนด์ดังระดับโลก โพสต์ขายออนไลน์ จนเกลี้ยงโกดังเสียหายกว่า 4 ล้านบาท พบวิธีขายสุดแยบยล นัดเจอลูกค้าหน้าโกดังตีเนียนเป็นเถ้าแก่ รับสารภาพสิ้นไส้หาเงินเสพยา เจ้าของโกดังเตือนคนที่ซื้อให้นำมาคืนจะยินยอมไม่เอาเรื่อง หากดื้อเสี่ยงติดคุกเพราะรับของโจร

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส.ฯ และ ร.ต.อ.จักรภพ อินรัญ รอง สว.สส.ฯ นำกำลังชุดสืบสวน เข้าจับกุมนายท่าหลวง หรือเบล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ได้ที่บริเวณริมคลองนาเกลือ ม.4 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา น.ส.อรษา อายุ 68 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาพบตำรวจ สภ.บางละมุง โดยแจ้งว่า ถูกคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ที่ โกดังเก็บสินค้า ริมถนนพัทยานาเกลือ เลขที่ 579/28 ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ทรัพย์สินหลายรายการ 1.เฟรมจักรยาน (ตัวโครง) ยี่ห้อแคนนอนเดล จำนวน 111 โครง 2.สายไฟ (ภายในโกดัง) 3.เครื่องปรับอากาศ 4.ตู้เย็น มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 4.5 ล้านบาท

ต่อมา ร.ต.อ.จักรภพ ได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งพบว่าเฟรมจักรยาน (โครงรถ) ซึ่งแบรนด์ดังระดับโลก ถูกโพสต์ขายในออนไลน์ ในราคาเพียง 1,000 บาท ซึ่งขายในราคาท้องตลาดมีมูลค่ากว่า 40,000 บาท ตำรวจจึงวางแผนล่อซื้อและจับกุมได้ที่บ้านพัก ก่อนขยายผลไปตามยึดเฟรมจักรยานได้จำนวนกว่า 60 เฟรม ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพัก และโกดังในพื้นที่ จ.นครปฐม

สอบถาม นายท่าหลวง ให้รับว่า เมื่อประมาณ กลางปี พ.ศ.2567 ได้มาหางานทำที่เมืองพัทยา โดยอาศัยหลับนอนตามที่รกร้างหรือตามข้างทางและประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปเพื่อยังชีพ กระทั่งเมื่อประมาณเดือน ธ.ค.2567 ก่อนสิ้นปี ได้เดินมาตามถนนพัทยานาเกลือ เห็นว่าที่อาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาคารเก็บของไม่มีผู้พักอาศัย เห็นเหล็กดัดที่ติดตั้งด้านข้างอาคารไม่ทราบว่าใครงัดไว้ จึงได้ลอดตัวเข้าไปในอาคารดังกล่าวเพื่อนอนพักผ่อน และพักอาศัยอยู่ที่อาคารดังกล่าวเรื่อยมา

โดยนอนที่ห้องชั้นล่างของอาคารดังกล่าว ต่อมาประมาณ ต้นเดือน ม.ค.2568 สังเกตเห็นว่ามีกล่องเก็บสินค้าอยู่ในอาคารเป็นจำนวนมากวางอยู่ที่ชั้นล่างและชั้น 2 ของอาคารดังกล่าว จึงได้เปิดดูพบว่าในกล่องเป็นเฟรมจักรยานถูกบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกทุกกล่อง ประกอบกับตนเคยโพสต์ขายสินค้าในเฟสบุ๊คมาก่อน จึงได้ใช้โทรศัพท์ของตัวเองถ่ายรูปเพรมจักรยานดังกล่าวโพสขายในเฟสบุ๊ค โดยขายในราคาเฟรมละ 1,000 บาท

หลังจากกนั้นมีลูกค้าสนใจทักแชทมา สอบถามจำนวนหลายคน ถ้ามีลูกค้าสนใจ ก็บอกให้ลูกค้ามาดูสินค้าที่หน้าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ให้ลูกค้าดูเหมือนว่าเป็นเจ้าของโกดัง เพื่อสร้างความหน้าเชื่อถือ และตกลงซื้อขายได้ทันที โดยตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.2568 เป็นต้น ได้นำเฟรมรถจักรยานที่อยู่ในอาคารดังกล่าวออกมาขายให้ลูกค้าเป็นจำนวนมาก และขายให้ลูกค้าจำนวนหลายคน บางคนก็ซื้อเพียง 1 เฟรม บางคนก็ซื้อจำนวนหลายเฟรม โดยการรับเงินค่าเฟรมจะรับทั้งเงินสดและโอนเข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง

จนกกระทั่งถึงวันที่ 23 ม.ค.2568 ได้จำหน่ายเฟรมจักรยานที่อยู่ในอาคารไปจนหมดทุกกล่อง หลังจากนั้นก็ได้ออกมาจากอาคารดังกล่าว เดินทางไปพักอาศัยอยู่ตามสถานที่รกร้างต่างๆ และนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยนำไปซื้อโทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่องในราคา 2,900 บาท และบางส่วนนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจตามจับกุมได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวน สภ.บางละมุง จึงขอประชาสัมพันธ์ว่าหากใครเคยซื้อเฟรมจักรยานยี่ห้อดังกล่าว จากผู้ต้องหา สามารถนำมาได้คืนที่ ห้องสืบสวน โดยทางเจ้าของโกดังยินยอมไม่เรื่อง หากไม่ยอมเอาสินค้ามาคืน ลูกค้าที่กลายเป็นเหยื่อ อาจจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหา ลักทรัพย์ หรือรับของโจร.
อติชาตสุขยืนรายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts