วันที่ 9 ก.พ.68 จากกรณีที่ “ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย” ทำหนังสือตอบ (1.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี , (2.)กระทรวงคมนาคม และ (3.)นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความของพนักงานและอดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อ 29 ม.ค.68 หลัง พนักงานการท่าเรือฯ 96 คนและครอบครัว ไปยื่นหนังสือร้องนายกรัฐมนตรี เมื่อ 15 ต.ค.67 ขอให้การท่าเรือฯ ชดใช้ค่าเสียหาย เนื่องจากถูกการท่าเรือฯ ร้องดีเอสไอ ให้ดำเนินคดี เป็นคดีพิเศษมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 7 ปีตั้งแต่ 2560 สร้างความเดือดร้อนต่อพนักงานอดีตพนักงานและคนในครอบครัว ต้องทนทุกข์ทรมาน กินไม่ได้นอนไม่หลับ เสื่อมเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ ต้องเจ็บป่วยล้มตายไปแล้วหลายคน เพราะทุกคน ต่างหวาดผวาต่อการ ถูกดำเนินคดีอาญา จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์บริสุทธิ์ ขอให้การท่าเรือชดใช้ค่าเสียหายรายละ 4 ล้านบาท
โดยผู้ลงนามคื อ“ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย” นั้นข้อความในหนังสือดังกล่าวทั้งสามฉบับมีข้อความเหมือนกัน โดย“ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย” กล่าวอ้างว่า “การท่าเรือแห่งประเทศไทยมิได้มีความประสงค์ที่จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษพนักงานและอดีตพนักงานการท่าเรือฯเกี่ยวกับกรณีทุจริตเบิกจ่ายคำล่วงเวลามาตั้งแต่แรกเริ่มแต่อย่างใด”
ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จทั้งสิ้น เพราะความจริงคือ “เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2560 การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีความประสงค์ดำเนินคดีอาญากับนายจงเด่น บุตรสุทธิวงศ์
นายเฉลียว สุขเกษม และนายวรพล อินทร์น้อย กับพวกพนักงานและอดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง“
และถึงแม้ว่า “ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย” จะอ้างว่ากรณีดังกล่าวเป็นการร้องทุกข์ตามหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ส่งมาถึงการท่าเรือแห่งประเทศไทยก็ตาม ข้อกล่าวอ้างเช่นนี้ถือเป็นการโยนความผิดไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะก่อนที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยจะแสดงความประสงค์เป็นผู้เสียหายและร้องทุกข์กล่าวโทษมอบคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ดำเนินคดีกับพนักงานฯ จำนวนมากนั้น การท่าเรือแห่งประเทศไทย ก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานลักฐานการกระทำความผิดให้แน่ชัด
และครบถ้วนเสียก่อนว่า พนักงานจำนวนหลายร้อยคนคนนั้นได้มีการกระทำความผิดจริงหรือไม่เพียงไร แต่ก็หาได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใดไม่ จึงเป็นเหตุให้คดีพิเศษต้องดำเนินต่อไปได้สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่พนักงานผู้บริสุทธิ์หลายร้อยคนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จากการถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นธรรมทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ และการที่ “ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย“ ทำหนังสือมีข้อความอันเป็นเท็จนั้น ก็มีเจตนาพิเศษต้องการช่วยเหลือผู้บริหารและอดีตผู้บริหารกว่า 30 คน ที่กำลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนความผิดข้อหากลั่นแกล้งพนักงานในคดีพิเศษเพื่อต้องการให้บุคคลเหล่านั้นพ้นผิดหรือไม่ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง การกระทำดังกล่าวของ “ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย” จึงมีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าว พนักงานฯ และอดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยและ ครอบครัว รวมทั้งนายกฤษฎา อินทามระ ”ทนายปราบโกง“ จะไปยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงคมนาคม พิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย “ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย” ในวันพรุ่งนี้จันทร์ที่ 10 ก.พ.68 เวลา 10.00 น. ที่หน้ากระทรวงคมนาคม ถนนราชดำเนิน
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907731_0-1024x840.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907733_0-1024x732.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907734_0-1024x732.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907735_0-1024x732.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907736_0-1024x732.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907737_0-697x1024.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907738_0-1024x738.jpg)
![](https://detective-news.com/index2022/wp-content/uploads/2025/02/S__3907739_0-843x1024.jpg)