เวลา 10.30 น. วันที่ 7 มี.ค.68 ที่ ริมฟุตบาทถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าแดนเนรมิตเก่า เขตจตุจักร กทม.จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พานาย เอ (นามสมมุติ)หนุ่มไรเดอร์ กับผู้เสียหายรายอื่นอีก 4 คน เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบฯ เอาผิดเพจเฟซบุ๊คชื่อ“ เราขอเป็นคนที่ได้มาดูแลคุณ ภาคสอง” พี่เปิดให้บริการระบุว่าอยากขายดาวน์อยากมีเงินเหลือรับปิดบัญชีไฟแนนซ์ โดยตนเอารถยนต์ไปจำนำกับบุคคลหนึ่งที่เช่าซื้อรถยนต์ไป เบื้องต้นมีผู้เสียหายแล้ว 5 คน รถ 5 คัน มูลค่าเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
นายเอ ไลน์ แมน กับภรรยา เปิดเผยว่า ตนเจอเพจซื้อขายรถยนต์ ติดต่อมาหลอกขอซื้อรถปิคอัพขายดาวน์ตอน 5 ทุ่ม เมื่อเดือน พ.ย.67 โดยให้เงินมา 3 หมื่นบาท สัญญาว่าจะเปลี่ยนสัญญาแล้วไม่เปลี่ยน และไม่ยอมส่งงวดต่อ เอารถไปแล้ว เมื่อโทร.ทวงถามบอกจะส่งให้ แล้วไม่ส่ง และบอกอย่าแจ้งความนะ เพราะความไม่รู้กฏหมาย เลยไม่ได้แจ้งความ ทำให้โดนบริษัทรถ ข่มขู่ โทรคุกคาม จนเครียด
นางนันทิดา เอกอิน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ เกิดจากที่ ครอบครัวมีปัญหาทางด้านการเงิน จึงค้นหาจนเจอเพจรับซื้อขายรถแลกเปลี่ยนสัญญาไฟแนนซ์สำหรับผ่อน และมีรีวิวจริงจึงได้ติดต่อไปสอบถาม และเพจดังกล่าว ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เขาก็เลยมาทำสัญญาที่บ้านในเวลากลางคืน สัญญา คือจ่ายแค่ 2 งวด งวดละ 30,000 บาท แต่เขาก็ไม่จ่ายค่างวดรถให้ตามสัญ และค้างค่างวดรถอยู่ 4 งวดแล้วรถก็ไม่ได้คืน ยังค้างค่างวดรถอีก
และรถยนต์ตนดาวน์มาในราคา 1200,000 บาท ซื้อมาตั้งแต่ปี 2021 จ่ายมาแล้ว 12 เดือน งวดละ 14,000 บาท เป็นเงิน ประมาณ 4 แสนบาท ตนก็ได้ติดต่อไปทางเพจ เขาก็บ่ายเบี่ยงต่างๆ ทำให้สามีเดือดร้อนไปทำงานก็ยาก กลัวเจ้าหนี้ตาม สามีก็โทรมาให้ตนโทร เช็คเพจตลอดแต่ก็ไม่เป็นผล ตอนนี้ไฟแนนซ์ก็ตาม หนี้ก็เยอะ รถก็ไม่ได้คืน แต่ถ้าเขาเอารถมาคืน ตนก็ไม่คืนเงิน 30,000 บาท ที่ให้มาครั้งแรก เพราะถือว่าเขาผิดสัญญา และตนบอกเขาว่า จะแจ้งความ เขาตอบกลับมาว่า ห้ามแจ้งความไม่อย่างนั้นตนจะผิดและเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ ไม่รู้จะทำยังไงจึงมาแจ้งความที่กองปราบฯให้ช่วยเหลือ
ที่เหลืออีก 3 รายก็โดนสองผัวเมียเจ้าของเพจดังกล่าวหลอกซื้อดาวน์รถปิคอัพแล้วเอาไปปล่อยต่อ โดยไม่รับผิดชอบผ่อนงวดไฟแนนซ์ต่อทั้งที่เอารถไปปล่อยขายได้แล้ว ทำให้ผู้เสียหายทุกรายต้องผ่อนงวดต่อเอง ทั้งที่ตัดใจขายดาวน์ไปแล้ว กลายเป็นผ่อนรถทิพย์ไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ป.สอบปากคำผู้เสียหายก่อนพิจารณาหาทางช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป
















