”สส.เป้า”นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ส.ส.ชลบุรี เขต.5 พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดใจ ในเรื่องข่าวคราวการย้ายพรรค ไปร่วมกับพรรคกล้าธรรม ว่า “ยังมีความสุขกับพรรครวมไทยสร่างชาติเป็นอย่างดี ไม่มีเหตุผลอะไรต้องย้าย ยังมีความสุขดีกับเพื่อนๆสส.ในพรรคเป็นพี่น้องกัน เฮฮากัน ในส่วน รัฐมนตรี ก็ยังดูแลกันอย่างดี
ส่วนในเรื่อง “ส.ส.แพร“ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี เขต.6 พรรคประชาชน ตัดสินใจไปทำงานการเมืองกับพรรคกล้าธรรม นั้น ตัว ”สส.แพร”ก็นับถือตนเองเหมือนอาคนหนึ่ง เพราะตนเองเป็นคนชักชวนให้มาเล่นการเมือง เพราะมองว่าเป็น คนรุ่นใหม่ ครอบครัวทำธุรกิจค้าไม้ระดับประเทศ ดูแลตัวเองได้ เมื่อได้มาเป็น สส.จึงเชื่อว่ามีวุฒิภาวะเพียงพอในการตัดสินใจแบบนั้น การที่พรรคประชาขนไม่ขับออก ”สส.แพร“สามารถทำงานดูแลประชาชนได้ และตอนนี้มาอยู่ฝั่งรัฐบาล ก็สามารถดูแลประชาชนได้ ดีกว่าเดิมอีก เชื่อว่าในพรรคก็มีคนที่คิดอย่าง “สส.แพร” แต่คงไม่มีใครกล้าทำ
“สส.แพร”คงอึดอัดใจจริงๆ ถึงกล้าออกมาทั้งทั้งที่รู้ว่าจะต้องถูกด่า ว่าเป็น งูเห่า เราต้องยอมรับในความคิดของเขาๆ ไม่มีใครผิดใครถูก แต่ก็สามารถทำงานดูแลประชาชนชาวชลบุรีได้เป็นอย่างดี
นายจิรวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ หรือ สส.แพร สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ตัดสินใจไปทำงานทางการเมืองกับพรรคกล้าธรรม นั้น น.ส.กฤษฎิ์ นับถือตนเป็นเหมือนอาคนหนึ่งเพราะตนเป็นคนชักชวนให้มาเล่นการเมือง เนื่องจากมองว่า น.ส.กฤษฎิ์ เป็นคนรุ่นใหม่ แถมครอบครัวทำธุรกิจค้าไม้ระดับประเทศซึ่งสามารถดูแลตัวเองได้ เมื่อ น.ส.กฤษฎิ์ ได้เป็น สส. จึงมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะตัดสินใจเรื่องการย้ายพรรค ส่วนที่พรรคประชาชน ยังไม่ขับ น.ส.กฤษฎิ์ ออก เพราะ น.ส.กฤษฎิ์ ยังทำงานดูแลประชาชนได้ ยื่งตอนนี้มาอยู่ฝั่งรัฐบาลทำให้ดูแลประชาชนได้ดีกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเชื่อว่ายังมีคนที่คิดเรื่องย้ายพรรคเหมือน น.ส.กฤษฎิ์ แต่คงไม่มีใครกล้าเลียนแบบ และเชื่อว่า น.ส.กฤษฎิ์ คงอึดอัดใจเป็นอย่างมากจึงกล้าที่จะเดินออกมาจากพรรคประชาชน ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นงูเห่า ซึ่งคงต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของ น.ส.กฤษฎิ์ เพราะการตัดสินใจย้ายพรรคไม่มีใครถูกใครผิด ขอเพียงสามารถทำงานดูแลชาว จ.ชลบุรี ได้เป็นอย่างดี ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว







