ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ลุยห้างดังย่านปทุมวัน ทลายคลังเก็บสินค้าปลอมซุกลานจอดรถ แปะป้าย “ห้องวิศวะ” ตบหน้าเจ้าหน้าที่ เปิดออกมาพบรองเท้าปลอมกว่า 2,600 คู่ ความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร, พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล, พ.ต.อ.วงศ์ปกรณ์ เปรมกุลนันท์ รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ภูวเดช จุลกะเสวี ผกก.1 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.ชัยพร เฮงจิตตระกูล, พ.ต.ท.ศักดิ์สะท้าน เปรื่องชนะ, พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว, พ.ต.ท.อัครพล เอี่ยมสำอางค์ รอง ผกก.1 บก.ปอศ. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ., เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า ได้ร่วมกันตรวจค้น คลังเก็บสินค้า ซึ่งอยู่บริเวณลานจอดรถ ชั้น 4 ของศูนย์การค้าดังย่านปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
จับกุม 3 ผู้ต้องหา ดังนี้
1.น.ส.นิภาพรฯ อายุ 44 ปี
2.นายศิวณัฐฯ อายุ 32 ปี
3.นายวันชัยฯ อายุ 60 ปี
สถานที่จับกุม แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ดำเนินคดีในฐานความผิด “มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าที่ปลอมเครื่องหมาย การค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 2.610 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท โดยมีของกลาง เป็นรองเท้าแบรนด์ต่าง ๆ อาทิเช่น Dior, Louis Vuitton, Hermès, Gucci, Nike, Adidas, New Balance และ Balenciaga
พฤติการณ์ เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวน ปราบปรามผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 โดยสืบสวนทราบว่ามีการลักลอบ เก็บสินค้าไว้บริเวณลานจอดรถชั้น 4 ซึ่งเป็นคลังสต็อกสินค้า จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการ ขอหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เพื่อตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว
ต่อมาจึงได้นำหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เพื่อทำการตรวจค้น ห้องไม่มีเลขที่ ซึ่งอยู่บริเวณลานจอดรถ ชั้น 4 ของศูนย์การค้าดังย่านปทุมวัน เมื่อไปถึงพบว่าภายในห้องดังกล่าวมีการแบ่งห้องเป็นห้องๆ โดยห้องดังกล่าวมีการหลบเลี่ยงโดยการติดชื่อ ห้องว่า “ฝ่ายวิศวกรรม” เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับผู้ดูแลห้องเก็บของดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่แสดงหมายค้นให้ตรวจสอบ และทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบของกลางเป็นรองเท้าปลอมหลายแบรนด์ เช่น Dior, Louis Vuitton, Hermès, Gucci, Nike, Adidas, New Balance และ Balenciaga ถูกซุกซ่อนอยู่ในห้องเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ของกลางดังกล่าวข้างต้นได้มีตัวแทน ผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าเป็นสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ จริง
จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้น-จับกุม ได้สืบทราบว่า มีบุคคลที่เป็นเจ้าของสินค้าทั้งสิ้น 3 ราย ให้การว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตน โดยนำสินค้ามาเก็บเพื่อจำหน่ายภายในห้างต่อไป เจ้าพนักงานตำรวจ ชุดตรวจค้น-จับกุมได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบพร้อมนำของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)ขอฝากประชาสัมพันธ์เตือนภัย การซื้อและใช้รองเท้าปลอม นอกจากจะละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้สวมใส่โดยตรง เนื่องจาก รองเท้าเหล่านี้มักผลิตจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านมาตรฐานการออกแบบด้านสรีรศาสตร์ ทำให้เกิดอาการ บาดเจ็บจากแรงกระแทก ปวดข้อ หรือปัญหาทางกล้ามเนื้อระยะยาว
อีกทั้งยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยลดรายได้จากภาษีที่ควรเข้าสู่ระบบรัฐ กระทบต่อผู้ประกอบการ และแรงงานไทยที่ทำงานสุจริต การควบคุมและปราบปรามการจำหน่ายสินค้าปลอมจึงเป็นกลไกสำคัญในการปกป้องผู้บริโภค เสริมสร้างบรรทัดฐานทางธุรกิจ และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าปลอมและร่วมมือกับภาครัฐในการแจ้งเบาะแส เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่โปร่งใสและยั่งยืน.
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยันว่าจะดำเนินการกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้า ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ในลักษณะเดียวกัน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ต.ชนะศึก โรจนพิทยากร สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปอศ. โทร. 087-6444450
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”








