บิ๊กเต่า เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ปปท. ตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพ หลังพบ เส้นเงินอดีตสมภารวัดตรีฯ เผยรูปคดี ยังไม่ชัด ตอนนี้พบแค่ผิดวินัยสงฆ์
วันนี้ (1 ก.ค 68) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ชั้น 27 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เข้าประชุม จากการเข้าตรวจสอบหลักฐานที่วัดตรีฯ เมื่อวานที่ผ่านมา จากข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆที่ได้มายังไม่น่าพอใจ รวมถึงไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรด้วย หลังจากนี้จะประสานกับทางรักษาการเจ้าอาวาสวัดคนใหม่เกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งไวยาวัจกรขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบวัดง่ายขึ้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สำหรับความผิดของอดีตเจ้าอาวาสที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้ พบเพียงแค่เรื่องผู้หญิง แต่เชื่อว่าหากเขาได้เงินจากพระไป เงินดังกล่าวก็น่าจะเป็นเงินที่มาจากวัด ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบเส้นเงินต่างๆที่เกี่ยวข้อง หากได้รับข้อมูลสเตทเมนท์จากธนาคารมาเมื่อไร การดำเนินการต่างๆก็จะทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงรู้ว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางใด
จากการเข้าตรวจสอบพบบัญชีธนาคารที่เป็นของวัดแล้ว 5 บัญชี แต่ยังมีบัญชีอีกบางส่วนที่น่าสงสัย ซึ่งเราจะตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ข้อเท็จจริงกระจ่างชัด ส่วนจะมีเส้นเงินเชื่อมโยงไปถึงสีกาคนสนิท เจ้าคุณอาชว์ หรือไม่นั้น ณ ตอนนี้พบเพียงยอดเงินจำนวน 9 หมื่น ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นเงินวัดหรือไม่ เพราะต้องรอตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงิน ดูให้แน่ชัดก่อน ส่วนเรื่องที่ สีกา ข่มขู่เรียกเงิน 7 ล้านบาท จากเจ้าคุณอาชว์ เบื้องต้นจากข้อมูลที่ได้รับ ทราบว่ามีอยู่จริง แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายเงิน หากถามว่า การกระทำของ สีกา จะเข้าข่ายความผิดเรื่องกรรโชกทรัพย์ หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่เจ้าคุณอาชว์ จะประสงค์แจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่า ณ ตอนนี้เจ้าคุณอาชว์ คงไม่มาให้ความร่วมมือหรือแจ้งความดำเนินคดี
สำหรับจุดประสงค์หลักที่ทางตำรวจ ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ปปช. เดินทางไปที่วัดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นั้น ก็เพื่อต้องการจะไปเป็นคนกลางช่วยเจรจาให้เจ้าตัวยอมสึกเนื่องจากได้รับประสานมาจากพระชั้นผู้ใหญ่ และ ทางสำนักพุทธให้เข้าไปช่วยเจรจา เหตุเพราะก่อนหน้านี้ทางพระผู้ใหญ่และสำนักพุทธเคยเจรจาขอให้ เจ้าคุณอาชว์ ยอมสึกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าตัวไม่ยินยอม แม้จะมีหลักฐานเป็นภาพคลิปวิดีโอ และ แชต สนทนากับสีกา ที่แสดงให้เห็นว่ากระทำผิดวินัยสงฆ์อย่างชัดเจนก็ตาม หากปล่อยไว้ก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาคลิปหลุดตามมา และจะทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย เราจึงต้องไปเพื่อยับยั้งปัญหา แต่ปรากฏว่าในวันที่ตำรวจเดินทางไปวัดนั้นไม่พบตัวเจ้าคุณอาชว์
นอกจากนี้อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตำรวจต้องรีบเข้าไปตรวจสอบวัด เนื่องจากเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องของทรัพย์สินวัด กลัวว่า เจ้าคุณอาชว์ หลังสึกไปแล้วจะนำทรัพย์สินวัดติดตัวไปด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่าเจ้าคุณอาชว์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า ณ ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะต้องรอข้อมูลสเตทเม้นจากทางธนาคาร มาตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน เช่นเดียวกับเงินในบัญชีธนาคารของ เจ้าคุณอาชว์ ที่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ
ขณะที่ในส่วนของ สีกาคนสนิทเจ้าคุณอาชว์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตามหาตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็อยากให้มาพบ แต่เจ้าตัวยังคงบ่ายเบี่ยง ส่วนการจะเข้าไปสอบปากคำคนในวัด หรือ ไวยาวัจกร ของวัดอีกรอบหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ขอเวลารวบรวมข้อมูลเตรียมตัวให้มากกว่านี้ก่อน แล้วจะกลับเข้าไปสอบปากคำใหม่อีกครั้ง กรณีนี้แตกต่างกับคดีของทิดแย้มหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า คดีทิดแย้มนั้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานจนเห็นการทุจริตต่างๆชัดเจน แต่กรณีเจ้าคุณอาชว์ เราพึ่งได้รับข้อมูลเรื่องวินัย มาเท่านั้นเอง ยังไม่เห็นข้อมูลทุจริต จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบต่อไป

