“…วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปชป. บุกตรงถึง 2 กระทรวง! เรียกร้องตรวจสอบฟาร์มไก่ไข่ 50,000 ตัวกลางเกาะสมุย ที่ชาวบ้านโวย “กลิ่นขี้ไก่” ฟุ้งทั่วเมืองท่องเที่ยว หวั่นทำลายภาพลักษณ์-สุขภาพคนทั้งเกาะ ลั่น! ถ้ารัฐนิ่งเฉย ประชาชนอาจไม่ต่างจาก “ลูกไก่ในกำมืออำนาจรัฐ”…”
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงการณ์ส่งหนังสือถึง 2 ปลัดกระทรวง ได้แก่ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำเนินการเร่งด่วนตรวจสอบ “โรงเลี้ยงไก่ไข่ 50,000 ตัว” ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยนายวัชระเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ชาวบ้านสุดทน! ร้องเรียนต่อตน เนื่องจากกลิ่นขี้ไก่ลอยคลุ้งไม่เว้นกลางวัน-กลางคืน ทั้งที่สื่อหลายสำนัก อาทิ ช่อง 7 และมติชนออนไลน์ รายงานข่าวต่อเนื่อง ว่า ฟาร์มแห่งนี้เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาแล้ว แต่เหตุใดจึงกลับ “ฟื้นคืนชีพ” สร้างความเดือดร้อนให้คนทั้งเกาะอีกครั้ง
นายวัชระย้ำว่า การสร้างโรงเรือนขนาดยักษ์บนพื้นที่ท่องเที่ยวระดับโลกอย่างเกาะสมุย หากไม่ได้มาตรฐานทางปศุสัตว์และสุขาภิบาล ถือเป็นการ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังเป็นภัยต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภาพรวม
“อย่าปล่อยให้ประชาชนที่รักษาสิทธิตนเองต้องกลายเป็น ‘ลูกไก่’ ในมือผู้มีอำนาจ… ถ้าเรื่องนี้เงียบ รัฐบาลนี้ก็ไม่ต่างจากโรงฟักไข่กลิ่นเหม็น!” นายวัชระ กล่าวอย่างดุเดือด
ทั้งนี้ นายวัชระขีดเส้นตายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและรายงานผลภายใน 15 วัน พร้อมเรียกร้องให้ ฟังเสียงคนตัวเล็กตัวน้อย ที่ไม่มีโอกาสได้พูดในเวทีสาธารณะ และกำลังทุกข์จากกลิ่นเน่าเหม็นจนแทบขาดอากาศหายใจกลางเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
