วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 7, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. และ บก.ป. ร่วมกับ ป.ป.ท., ป.ป.ช. สืบสวนจับกุมขยายผลการทุจริตเงินวัด

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. และ บก.ป. ร่วมกับ ป.ป.ท., ป.ป.ช. สืบสวนจับกุมขยายผลการทุจริตเงินวัด

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.  พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป., พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.5 บก.ปปป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.,
นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ มอบหมายให้นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2
และเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ
รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. มอบหมายให้ น.ส.อนงนาต ชีวานันทกุล ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 5 และเจ้าหน้าที่
ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คดี

คดีที่ 1 กรณีวัดใหญ่จอมปราสาท จับกุม

1. นายทิวากรฯ หรืออดีตพระมหาทิวากรฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 72/2568
โดยกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตฯ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
จับกุมได้ที่วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี 

2. นายสันติชัยฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 73/2568 โดยกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ” ตามข้อ 1 ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 จับกุมได้ที่บ้านพัก  จ.สมุทรสงคราม

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากกรณีตามที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากรฯ อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ซึ่งมีการโอนเงินของวัดไปยังบุคคลภายนอก ได้แก่ น.ส.วิลาวัลย์ฯ และนายสันติชัยฯ คนรู้จักของตนโดยไม่ปรากฏว่ามีการนำไปใช้ในกิจการของวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการสืบสวนพบว่ามีการโอนเงินจากบริษัทเอกชนจำนวน 3 บริษัท ซึ่งตกลงเช่าสถานที่จอดเรือด้วยวาจากับอดีตเจ้าอาวาส บริเวณหน้าวัด ริมแม่น้ำท่าจีนเดือนละ 30,000 บาท และอดีตเจ้าอาวาสได้ให้ผู้เช่าทำการติดต่อเรื่องดังกล่าวผ่านนายสันติชัยฯ และนายสันติชัยฯ แจ้งว่าให้ทำการจ่ายค่าเช่าเดือนละ 30,000 บาท เข้าบัญชีส่วนตัวของนายสันติชัยฯ ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.66 – 13 มิ.ย.68 จำนวนรวมกว่า 870,000 บาท เมื่อทำการตรวจสอบบัญชีของนายสันติชัยฯ พบว่ามีการโอนเงินต่อไปยังพระมหาทิวากรฯ โดยไม่มีการนำส่งเงินเข้าบัญชีของวัด นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลัง พบยอดโอนต่อไปยังบัญชีของ น.ส.วิลาวัลย์ฯ อีกประมาณ 1.4 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลทางบัญชีของวัดที่ส่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่มีการแจ้งรายรับจากค่าเช่าที่จอดเรือในช่วงเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่ามีเจตนาเบียดบังเงินวัดโดยมิชอบ

พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา และวันนี้ (7 ส.ค.68)
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป., บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. ได้นำกำลังเข้าวางแผนจับกุมผู้ต้องหาและนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.สุโกศล ทองแกมแก้ว สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปปป. โทร. 06 4190 1888

คดีที่ 2 กรณีวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร จับกุม

นายวิรัติฯ หรืออดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธีฯ อายุ 60 ปี อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พิจิตรผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 74/2568
โดยกล่าวหาว่า “เป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตฯ, เป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2505 มาตรา 4, 11 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 จับกุมได้ที่บ้านพัก อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร

พฤติการณ์ จากการสืบสวนพบว่าขณะที่ผู้ต้องหาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต โดยมีเงินที่ได้จากการบริจาคให้กับวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร จำนวน 3,000,000 บาท ซึ่งวัดท่าหลวง จ.พิจิตร (วัดที่ผู้ต้องหาเป็นเจ้าอาวาส) ได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้ ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร มีบัญชีการเงินธนาคารต่างๆ ที่อยู่ในการดูแลจำนวน 14 บัญชี โดยมีเล่มสมุดบัญชีการเงินธนาคารต่างๆ จำนวน 13 บัญชี เป็นบัญชีกระแสรายวัน 1 บัญชี เพื่อใช้จ่ายผ่านเช็คให้กับร้านค้า 
ไม่มีบัญชีการเงินธนาคารกรุงไทยและเอกสารที่เกี่ยวข้องของวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร ชื่อบัญชี “เพื่อพัฒนาการศึกษา มจร.พิจิตร” ที่ผู้ต้องหาใช้ในการรับบริจาค โดยเมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายวิรัติฯ หรืออดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธีฯ ผู้ต้องหา ยังพบว่าได้นำเงินที่ได้รับบริจาคไปให้บุคคลอื่นหรือไปใช้ส่วนตัวด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา กระทั่งวันนี้ (7 ส.ค.68) บก.ปปป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.พงศ์ปณต บัวแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. โทรศัพท์ 08 6313 9845

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts