ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ “บุ๋ม ปนัดดา” ก้าวขึ้นรับบทโฆษกจิตอาสา ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ภารกิจของเธอชัดเจน… นำความจริงสู้กับคำลวง เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ
1. ทำไมต้องเป็น “บุ๋ม”?
คุณบุ๋มรับภารกิจชี้แจงต่อชาวโลก ไม่ใช่แค่เรื่องพูดเก่ง แต่คือเรื่องพูดแล้วคนเชื่อ คุณบุ๋มลงพื้นที่จริง เห็นปัญหาของพี่น้องประชาชนชายแดนมาด้วยตัวเอง เธอมีจุดแข็งคือ มีฐานแฟนคลับและผู้ติดตามจำนวนมาก การสื่อสารชัดเจน มีเครดิตจากการทำงานสาธารณะมานาน “น่าเชื่อถือ” เธอตั้งใจใช้โซเชียลมีเดียเป็นสนามรบข้อมูล ตอบโต้ข่าวบิดเบือนแบบทันทีทันใด
2. ศึกข่าวชายแดน “ความจริง vs คำลวง”
ในขณะที่โฆษกฝั่งตรงข้ามคือ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแถลงข่าวบิดเบือน จนสื่อต่างประเทศตั้งข้อสังเกตซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ข้อมูลหลายครั้งถูกจับได้ว่าโกหก” แต่เธอมีจุดแข็งคือ ปล่อยข้อมูลรวดเร็ว
3. นี่คือเกมยาว… ฝั่งที่ถือ “ความจริง” อยู่ในมือ มีโอกาสชนะเสมอ
ถ้าคุณบุ๋มทำสำเร็จ ผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้
(1) สร้างเครดิตให้ไทยในสายตานานาชาติ
เมื่อข้อมูลถูกนำเสนออย่างตรงไปตรงมา สื่อต่างประเทศจะมีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ทันที
(2) เพิ่มความมั่นใจของประชาชน
เพราะรู้ว่ามีคนพร้อมออกมาปกป้องความจริงแทนพวกเขา
(3) ลดพื้นที่ข่าวลวง
การตอบโต้ด้วยข้อมูลจริงทันที จะทำให้ข่าวบิดเบือนแพร่กระจายยากขึ้น
4. กุญแจสู่ชัยชนะ
ผมมั่นใจว่าคุณบุ๋มมีสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว
(1) เอาความจริงสู้คำลวง: ทุกข้อมูลต้องมีแหล่งอ้างอิง
(2) ตรงไปตรงมา: ไม่อ้อมค้อม ไม่หลบ ไม่เลี่ยงคำถาม
(3) ใช้โซเชียลเป็นอาวุธ: Live อัปเดตสถานการณ์ ทำอินโฟกราฟิกสั้นๆ ให้แชร์ง่าย
(4) สื่อสารอย่างมีหัวใจ: ให้ความเคารพต่อเพื่อนบ้าน แม้ต้องโต้แย้ง
5. นี่คือ “สงครามแห่งศรัทธา”
นี่ไม่ใช่แค่ศึกโฆษก แต่มันคือ สงครามศรัทธาระหว่างความจริงกับคำโกหก และวันนี้ คนไทยทั้งประเทศมี คุณบุ๋ม เป็นตัวแทนที่พร้อมยืนหยัดด้วยความจริง
วันนี้ “บุ๋ม ปนัดดา” ไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อให้โลกเห็นว่า ประเทศไทย… ยืนอยู่บนความจริง ความจริงไม่ใช่แค่คำพูด แต่มันคืออาวุธที่ปกป้องชื่อเสียงและเกียรติยศของประเทศ
ผมเชียร์ “ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เต็มที่ เพราะเมื่อความจริงชนะ… ประเทศไทยก็ชนะด้วย