ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดปฏิบัติการ Operation iLockdown เฟส 2 เข้าตรวจค้น 3 บริษัทในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปทุมธานี หลังสืบทราบว่ามีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายผ่านการจำนำ iCloud พบเงินหมุนเวียนนับสิบล้านบาท และมีผู้กู้กว่า 2,000 ราย
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากปฏิบัติการ Operation iLockdown ครั้งแรก ซึ่งมีการขยายผลจากผู้เสียหายที่ร้องเรียนผ่านเพจ CIB และหนังสือร้องเรียนถึงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเกี่ยวกับบริษัทที่เปิดรับจำนำ iCloud ในลักษณะคล้ายคลึงกัน จากการสืบสวนพบว่าบริษัทเหล่านี้ใช้วิธีการให้ผู้กู้กรอกข้อมูลส่วนตัวและผูกบัญชี iCloud ของบริษัทเข้ากับโทรศัพท์ของผู้กู้ เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินและติดตามทวงหนี้ โดยใช้ระบบ Mobile Device Management (MDM) เพื่อควบคุมระยะไกลและสามารถล็อกเครื่องโทรศัพท์ได้ทันทีหากผิดนัดชำระหนี้
กลุ่มบริษัทปล่อยกู้ได้คิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 270.1 ต่อปี และหากผู้กู้ชำระล่าช้าเกิน 3 วัน จะมีค่าปรับวันละ 100 บาท หากล่าช้าเกิน 7 วัน เครื่องโทรศัพท์จะถูกล็อกทันที และจะมีการคิดค่าปลดล็อกเพิ่มเติมอีก
ผลการตรวจค้นและดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท ซาธอนิค จำกัด, ร้าน Apple Exchange และบริษัท ซาโตชิโกลด์ จำกัด พบหลักฐานสำคัญมากมาย เช่น:
– เครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการตรวจสอบข้อมูลผู้กู้
– เอกสารเกี่ยวกับการรับจำนำ iCloud
– สมุดบัญชีธนาคารที่มีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท
– กระดานที่เขียนขั้นตอนการทวงถามหนี้และข้อมูลผู้กู้
เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับบริษัทและผู้เกี่ยวข้องในข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัยประชาชนให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสบัญชีต่างๆ ทั้งระบบ iOS และ Android กับบริษัทหรือบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและถูกติดตามตัวได้

