เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 ส.ค. 68 กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อร้องขอให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เร่งรัดการดำเนินคดีและอายัดทรัพย์ของ นายเอ็ม อดีตหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงที่หลอกลวงให้ลงทุนสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด “อภิมหาเมตตา ทรัพย์เพิ่มพูน” ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายถูกหลอกจนหมดตัว มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท
หลอกยืมเงินจากความเชื่อมั่น
นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า รู้จักกับนายเอ็มตั้งแต่ปี 2563 และเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นจนเกิดความเชื่อมั่น เนื่องจากนายเอ็มเคยให้เหรียญพระทองคำโดยไม่หวังผลตอบแทน ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2567 นายเอ็มโทรมายืมเงิน 3 แสนบาท อ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างพระ จึงโอนให้ 2 ครั้ง รวม 3 แสนบาท จากนั้นยังขอยืมเงินเพิ่มอีกหลายครั้ง โดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการผลิตพระที่ต้องส่งไปยังโรงหล่ออื่น ๆ หรือค่าใช้จ่ายในพิธีปลุกเสก ทำให้ตนหลงเชื่อและโอนเงินให้รวมทั้งหมด 990,000 บาท “ที่ผมเชื่อใจ เพราะเพจเฟซบุ๊กของวัดสวนขันมีการอ้างยอดจองพระสูงถึง 18 ล้านบาท แถมยังมีนักการเมืองและนายทุนใหญ่ร่วมลงทุนด้วย ยิ่งทำให้มั่นใจว่านายเอ็มจะคืนเงินได้” นายสมชายกล่าว
นอกจากนี้ นายเอ็มยังเสนอสิ่งตอบแทนมากมาย ทั้งสัญญาว่าจะให้รถยนต์ และจะดูแลหนี้สินทั้งหมดให้หากโครงการสำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้น ยังหลอกเอาบ้านและที่ดินในจังหวัดนราธิวาสและนครศรีธรรมราชไปขายในราคา 13 ล้านบาท ทั้งที่ทรัพย์สินมีมูลค่าเพียง 10.5 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ไม่จ่ายเงินให้ตามที่ตกลง เหยื่ออีกรายถูกหลอก 22 ล้านบาท
นางสมหญิง (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายเอ็มมานานหลายปี เขาเป็นที่รู้จักในวงการสร้างพระเครื่องมานานก่อนจะผันตัวไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง เมื่อปี 2567 นายเอ็มได้ยืมเงินไปสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวดที่วัดสวนขัน โดยเริ่มจาก 7 แสนบาท และขอยืมเพิ่มอีกหลายครั้งจนยอดรวมสูงถึง 22 ล้านบาท โดยอ้างว่ามียอดจองเข้ามาแล้วนับร้อยล้านบาท และเมื่อสร้างพระเสร็จจะคืนเงินให้ 100 ล้านบาท แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถติดต่อนายเอ็มได้อีกเลย
อายัดทรัพย์สินก่อนจะถูกยักย้ายถ่ายเท
นายสมชาย ทนายความ เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนของนายประดิษฐ์ (นามสมมุติ) นักธุรกิจผู้เสียหายอีกรายที่เสียชีวิตไปแล้ว นายประดิษฐ์เคยสั่งจองพระเครื่องหลวงปู่ทวดเนื้อทองคำถึง 4 งวด เป็นเงิน 4 ล้านบาท ก่อนจะถูกนายเอ็มชักชวนให้ทำบุญเพิ่มเพื่อสร้างพระทวดองค์ใหญ่ แต่สุดท้ายกลับถูกแจ้งความในคดีฉ้อโกงร่วมกับนายเอ็มในภายหลัง ทั้งที่ตนเป็นผู้เสียหาย ทำให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลสู้คดีจนเสียชีวิตในที่สุด
กลุ่มผู้เสียหายกล่าวว่า แม้ขณะนี้นายเอ็มจะถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินคดีปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอมจนต้องโทษอยู่ในเรือนจำ แต่พฤติกรรมการหลอกลวงผู้เสียหายจำนวนมาก ทำให้เกรงว่านายเอ็มจะยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ฉ้อโกงไปให้ญาติพี่น้องจนหมด จึงต้องมาขอให้ทาง ผบช.ก. เข้ามาช่วยเร่งรัดในเรื่องการอายัดทรัพย์สินของนายเอ็ม เพื่อนำมาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป