“…เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามนำโดย พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.5 บก.ปคม…”
จับกุม 1. นายชัยรัตน์ หรือท็อป จีนกระจันทร์ อายุ 27 ปี สัญชาติไทย (ผู้ใช้บริการทางเพศเด็ก)
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และบังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะ ลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด”
2. น.ส.มิ้ว (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 16 ปี สัญชาติไทย (แม่เล้า)
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ๑. ค้ามนุษย์ (ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี) โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี (พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๖)
๒. เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. ๒๕๓๙)
๓. เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ป.อาญา ม.๒๘๒)
๔. บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ ม.๒๖ (๓))
๕. รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจากผู้ค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ (ประมวลกฎหมายอาญา ม.๒๘๖ (๒)(๔)
สถานที่จับกุม โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 65 เวลาประมาน 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5
กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ว่ามีขบวนการลักลอบ หลอกลวงหญิงสาว ซึ่งอายุต่ำกว่า 16 ปี มาค้ากาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงแรมม่านรูดดังกล่าว พร้อมทั้งแฝงตัวเปิดห้องพักเพื่อทำการซุ่มดู
ในขณะที่ซุ่มดู พบผู้ชายได้ขับรถยนต์กระบะเข้ามาเปิดห้องเลขที่ 508 ต่อมาได้มี น.ส.มิ้ว
(ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 16 ปี (แม่เล้า) เดินมาส่ง น.ส.เอ ฯ อายุ 15 ปี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ที่ห้องพักเลขที่ 508 และพบ นายชัยรัตน์ หรือท็อป ฯ (ผู้มาใช้บริการทางเพศ) เปิดประตูห้องดังกล่าวออกมา พร้อมได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับ น.ส.มิ้ว ฯ (แม่เล้า) เมื่อส่งมอบเงินเสร็จ น.ส.มิ้ว ฯ จึงได้ปล่อยตัว น.ส.เอ ฯ ให้เข้าไปห้องของ นายชัยรัตน์ หรือท็อป ฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการจับกุมตัว น.ส.มิ้ว ฯ (แม่เล้า) ในข้อหา “ค้ามนุษย์ โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กฯ” จากการซักถาม น.ส.มิ้ว ฯ ให้การรับว่าได้นำ น.ส.เอ ฯ มาขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าจริง ในราคา 1,300 บาท ตนได้ค่านายหน้า 500 บาท ส่วนเด็กตนจะให้ 800 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เคาะประตูห้องดังกล่าว พบ น.ส.เอ ฯ นุ่งผาขนหนู เดินออกมาเปิดประตู และพบนายชัยรัตน์ หรือท๊อป ฯ สภาพเปลือยเสื้อผ้าอยู่บนเตียงภายในห้องดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการจับกุมตัว นายชัยรัตน์ หรือท๊อป ฯ ในข้อหา “พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารฯ” พร้อมด้วยเข้าทำการช่วยเหลือ น.ส.เอ ฯ กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ OUR จากการสอบถาม น.ส.เอ ฯ เล่าว่าตนเองได้ถูกหลอกลวงให้มาค้ากามจริง และจะได้ส่วนแบ่งจากแม่เล้า ครั้งละ 800 บาท โดยถูกหลอกลวงให้มาค้ากามแล้วประมาณเดือนเศษ โดยที่ผ่านมา น.ส.เอ ฯ ยังเล่าว่า ลูกค้าที่มาซื้อบริการได้บังคับให้ น.ส.เอ ฯ เสพยาเสพติดหลายชนิดจำนวนหลายครั้ง และใช้ความรุนแรงทางเพศ และยังได้ถูกถ่ายคลิบวีดิโอไว้ ในขณะที่น.ส.เอ ฯ น็อคยาเสพติดและไม่สามารถขยับตัวเองได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสอบห้องพักภายในโรงแรมม่านรูดดังกล่าวที่ น.ส.มิ้ว ฯ ได้พา น.ส.เอ ฯ ออกมา ปรากฎว่ายังพบ น.ส.บี ฯ เด็กสาวอายุ 14 ปี อีกจำนวน 1 คน อยู่ภายในห้อง จากการสอบถาม น.ส.บี ฯ รับว่าตนเองก็ถูกหลอกลวงให้มาค้ากามเหมือนกับ น.ส.เอ ฯ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือ น.ส.เอ ฯ และ น.ส.บี ฯ เหยื่อการค้ามนุษย์ เข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือผู้เสียหายที่ถูกกระทำต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น (รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา)