กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก,พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.3 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.,นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา
ผู้ช่วยเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่
ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา ว่าที่ ร.อ.วัทธิกรฯ อายุ 66 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 21/2568 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2568
ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขื่นใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใด มอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามกฎหมาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, และ 157
สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา อบจ.มุกดาหาร ต.ในเมือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ผู้กล่าวหาซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างของเอกชน ได้ทำสัญญารับจ้างโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ จำนวน 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท และโครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ 2,993,000 บาท รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 12,773,000 บาทกับทาง อบจ.มุกดาหาร โดยมี ปลัด อบจ.มุกดาหาร ผู้ต้องหา เป็นผู้ลงนามว่าจ้าง ปรากฏตามสัญญา ต่อมาเมื่อผู้กล่าวหาทำงานเสร็จสิ้นแล้ว ตามสัญญา ได้ส่งมอบงานและเบิกเงินค่าก่อสร้างแล้ว 2 โครงการ แต่เมื่อผู้กล่าวหาต้องการขอเบิกเงินค่าดำเนินงานตามโครงการเหลืออีก 5 โครงการ ผู้ต้องหากลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เบิกเงินค่าจ้าง โดยแจ้งว่างานไม่เรียบร้อย ตามสัญญาจ้าง และเมื่อผู้กล่าวหาได้เข้าไปพบผู้ต้องหา ผู้ต้องหาได้เขียนข้อความลงในแผ่นกระดาษให้แก่ผู้กล่าวหาโดยมีข้อความเรียกรับเงิน ร้อยละ 10% ของวงเงินตามโครงการ รวมเป็นเงินประมาณ 700,000 บาทเศษ เพื่อ ตอบแทนในการตรวจรับงานแทนการพูด ซึ่งความจริงแล้วผู้กล่าวหาได้ทำงานครบถ้วนถูกต้องตรงตามสัญญาแล้ว และได้ตรวจงานรับงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้เบิกเงินค่าดำเนินงานตามโครงการ ผู้กล่าวหาจึงต้องจำยอมมอบเงินให้แก่ผู้ต้องหา โดยก่อนนำเงินไปส่งมอบเงินผู้กล่าวหาได้เข้าร้องเรียนต่อ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน
ต่อมาผู้กล่าวหาได้นำเงินไปมอบให้กับผู้ต้องหาที่ห้องทำงาน จำนวน 500,000 บาท ผู้ต้องหาได้เขียนข้อความลงในแผ่นกระดาษแทนการพูด มีข้อความว่าให้นำเงินไปวางไว้ยังจุดที่ผู้ต้องหาสั่ง ภายหลังเลิกงาน ผู้ต้องหา จึงเข้าไปหยิบเงินแล้วเดินทางกลับที่พัก หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ติดต่อทวงถามเงินส่วนที่เหลือ อีก 200,000 บาท กับผู้กล่าวหาอีก ผู้กล่าวหาจึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อให้ดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย กระทั่งวันนี้ (22 ส.ค.68) บก.ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา
ในเขตพื้นที่ จ.มุกดาหาร พร้อมของกลาง เงินสด 200,0000 บาท มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ต.ถิรวัฒน์ ฟักประไพ สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปปป. โทร. 08 6169 6242






