อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง พบยังมีอิทธิพลสั่งการใช้เงินในวัดแม้สึกแล้ว / ด้านวัดนาป่าพง รอสเตทเม้นท์จากธนาคารตรวจสอบเส้นเงิน 500 ล้านบาท เตรียมพิจารณาออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัด
เมื่อ 13.00 น. วันที่ 23 ก.ย.68 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ภายหลัง น.ส.ชฎาฐัค หรือ “สีกาบี“ เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนาเพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังของวัดป่ามัชฌิมวาส จ.กาฬสินธุ์ และ นายเมือง กอหาร อดีตเจ้าอาวาสวัดฯ หรืออดีตพระโพธิญาณมุนี (หลวงพ่อเมือง) หลังจากมหาเถรสมาคมมีมติให้ปาราชิกและต้องพ้นจากความเป็นพระตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ว่า เบื้องต้นวันนี้สีกาบีได้มายื่นหนังสือร้องให้ตรวจสอบอดีตพระเมืองที่สึกไปแล้ว ซึ่งหลังจากสึกอดีตหลวงพ่อเมืองก็ยังอยู่วัดและบริหารจัดการเรื่องภายในวัด และเอาเงินวัดไปใช้ สีกาบีจึงมาร้องให้สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ // ทั้งนี้ยังไม่ทราบในข้อเท็จจริง แต่พระเมื่ออยู่วัดมานานพอสึกก็อยู่ในช่วงทำใจอยากอยู่วัดต่อ และก็ยังมีอิทธิพลในวัด สั่งโน้นนี่พระรูปอื่นก็ยังเกรงใจอยู่
ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสีกาจนมหาเถรสมาคมให้ปาราชิกนั้น ตนเองไม่ทราบเรื่อง แต่ในขณะนี้มีมติมาหาเถรสมาคมแล้ว และท่านก็สึกแล้วก็จบไปตามความผิดพระธรรมวินัย แต่เรื่องที่มาร้องกับตำรวจคือเรื่องทุจริตเงินในวัด จึงมอบหมายให้ศูนย์ภัยคุกคามฯไปตรวจสอบ และจะส่งเรื่องให้พื้นที่ที่เกี่ยวข้องไปทำว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง
ส่วนประเด็นที่อดีตหลวงพ่อเมือง มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 2 หมายเลข ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ตนเองไม่ทราบความสัมพันธ์ของสีกาบีกับอดีตหลวงพ่อเมืองด้วย จะต้องทำการสืบสวนก่อน
ส่วนกรณีของวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวานนี้ทางทนายความของวัดได้เดินทางมาชี้แจงเรื่องยอดเงินวัดตั้งแต่ปี 56-59 ประมาณ 500 ล้านบาท ที่มีการฟ้องร้องกัน เบื้องต้นยังไม่มีการลงรายละเอียด เป็นเพียงการเดินทางมาชี้แจงที่มาที่ไปของเงินภายในวัด ซึ่งพนักงานสอบสวนก็รับไว้ดำเนินการแล้ว และทางสีกาเยอรมนีได้มีการประสานเพื่อจะเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนบก.ปปป. แล้วในวันที่ 2 ตุลาคม ที่จะถึงนี้
แต่อย่างไรก็ตามสำนวนคดีนี้นั้นได้ส่งไปที่ ป.ป.ช. แล้วแต่ตำรวจ บก.ปปป. ยังมี อำนาจในการสืบสวน และสอบปากคำอยู่ โดยการสอบปากคำมีหลายประเด็นเกี่ยวกับเอกสารที่ได้มา
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการมาดำเนินคดีในประเทศไทย เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้คดีที่ประเทศเยอรมนีเกี่ยวข้องกันหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ฟ้องกันไปมา มีทั้งจริง และไม่จริง แต่อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบทั้งหมดโดยตำรวจจะมุ่งไปในประเด็นบัญชีวัดเป็นหลัก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า เราสนใจบัญชีวัด และเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ภายในสัปดาห์นี้จะมีการเรียกประชุมชุดสืบสวนและชุดที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์ของ บก.ปปป. ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ขอให้เราได้เอกสารที่ขอไปก่อน เพราะตอนนี้เราต้องการสเตทเม้นท์จากทางธนาคาร และพยานต่างๆที่เราจะต้องไปสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันพยานหลักฐาน // อย่างไรก็ตามการขอสเตทเม้นท์จากทางธนาคารนั้นก็เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเวลาพนักงานสอบสวนจะดำเนินการก็จะต้องมีพยานหลักฐานจากฝั่งตำรวจเอง ไม่ได้เอาพยานหลักฐานจากคนอื่นมาดำเนินการ แล้วไปกล่าวหาใคร
ซึ่งหลังจากที่ได้พยานหลักฐานมาแล้ว หลังจากนั้นอาจจะมีการเตรียมพิจารณาออกหมายจับบุคคลที่มีอำนาจ หรือเกี่ยวข้องกับบัญชีของวัดต่อไป




