วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่สมาคมทนายความฯ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน นายชาญวุฒิ เมฆรักษาวนิช ตัวแทนนางน้อย เมฆรักษาวนิช ทายาทของนางชูจิตต์ วงศาธิปัตย์เจ้าของมรดกจำนวนหลายร้อยล้านบาท เข้าพบนายกสภาทนายความฯ เพื่อยื่นหนังสือร้องกรณีถูกกลุ่มทนายซ่องโจร ร่วมกับตบตาศาล
“ยื่นหนังสือกับสภาทนายความ ในระหว่างการดำเนินคดีอาญากับซ่องโจรทนาย ข้าพเจ้าประสงค์จะร้องเรียนให้สภาทนายความดำเนินการสอบสวนกลุ่มบุคคลดังกล่าวในข้อหากระทำผิดมรรยาททนายความ ได้แก่ สมคบคิดแบ่งหน้าที่เป็นโจทก์ เป็นทนายโจทก์ และเป็นทนายจำเลยไปหลอกใช้ศาล และกรมบังคับคดีเพื่อประสงค์ยึดเอาทรัพย์ของผู้อื่นมาเป็นของตน โดยการปลอมแปลงสัญญาเงินกู้แล้วยื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี 3 คดี จากนั้นได้ปลอมแปลงสัญญาประนีประนอมยอมความทั้งฉบับเพื่อไปเซ่นต่อหน้าศาล แล้ววางแผนให้จำเลยผิดสัญญายอมเพื่อนำไปสู่การยึดที่ดิน 3 แปลง เงินฝากธนาคาร 2 บัญชี ทำให้เกิดความเสียหายเบื้องต้นกว่า 57 ล้านบาทดังที่เป็นข่าวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การมายื่นเรื่องในวันนี้ ข้าพเจ้าต้องการให้คณะกรรมการมรรยาทแห่งสภาทนายความฯเร่งไต่สวนกลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งมีพฤติการณ์เสมือนซ่องโจร เพียงแต่ใช้สำนักงานกฎหมายเป็นหน้าฉากมากระทำผิดเสียเอง ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายซึ่งพวกตนทราบดีมาก่ออาชญากรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อประทุษร้ายทรัพย์กับผู้สูงอายุวัยไม้ใกล้ฝั่งที่พอมีฐานะมีทรัพย์สิน การกระทำอุกอาจนี้เป็นเรื่องสะเทือนขวัญต่อสังคม เพราะเป็นการฉ้อโกงโดยใช้เทคนิคทางกฎหมายอย่างแยบยลสร้างความเสียหายร้ายแรง มิหนำซ้ำยังบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อระบบยุติธรรมของประเทศ จึงเสนอให้นายกสภาทนายความให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ หากพบว่ามีมูลมีหลักฐานหนักแน่น ก็ต้องพิจารณาพักใบอนุญาตของกลุ่มทนายซ่องโจรนี้ มิให้ไปก่ออาชญากรรมเสียหายต่อสังคมอีก ในระหว่างที่รอผลคดีอาญา
ขอให้ใช้คดีข้าพเจ้าเป็นกรณีศึกษา ทั้งนี้ เท่าที่สืบทราบได้ หนึ่งในทนายโจรดังกล่าวได้รับใบอนุญาตทนายความจากสภาทนายความฯในเดือนกรกฎาคม 2558 ทั้งที่ถูกศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 การจงใจปกปิดการขาดคุณสมบัติดังกล่าวทั้งที่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติการเป็นทนายตามพระราชบัญญัติทนายความ 2527 ทำให้เขาได้ประกอบอาชีพทนายความโดยมิชอบด้วยกฎหมายมาเป็นเวลา 10 ปี ข้าพเจ้าขอให้สภาทนายความปรับเปลี่ยนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นขอใบอนุญาตให้เป็นเชิงรุก กล่าวคือ ต้องมีการตรวจสอบสถานะบุคคลล้มละลายโดยเข้าไปเช็คได้ที่เว็บไซต์พระราชกิจจานุเบกษา ก็จะทราบผลได้ภายใน 10 วินาทีต่อ 1 ราย ซึ่งเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่สังคมได้รับ เป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่ามาก ปีๆหนึ่งมีผู้ยื่นขอใบอนุญาตราว 2,800 คน ใช้เวลาตรวจสอบไม่ถึง 8 ชั่วโมง
ขอให้ประชาชนเข้าถึงตรวจสอบสถานะการเป็นทนายความของบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยสะดวกโดยวิธีออนไลน์ ในลักษณะเดียวกับที่สามารถตรวจสอบใบประกอบโรคศิลป์ของแพทย์ เพื่อป้องกันกรณีมิจฉาชีพแอบอ้างตนเป็นทนายหลอกลูกความ ดังที่เกิดขึ้นเป็นข่าวอยู่ประจำ
ขอให้สภาเน้นด้านคุณภาพของทนายที่ผลิตเข้าสู่สังคมในแต่ละปีมากกว่าปริมาณ เพราะอาชีพทนายมีผลต่อความยุติธรรมในสังคม และสภาทนายถือเป็นสถาบันสำคัญที่จะธำรงไว้ซึ่งศรัทธา ความน่าเชื่อถือต่อวงการทนาย“
หลังจากนั้น เวลา 13.00 น. นายชาญวุฒิ จะเดินทางไปกองบัญชาการสอบสวนกลางเพื่อส่งมอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมใหม่หลายชิ้นซึ่งเชื่อมโยงขบวนการผู้กระทำผิด
ทั้งนี้ เชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวทำให้ทีมงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเชื่อมโยงขบวนการซ่องโจรทนายไปสู่ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังได้อย่างแน่นอน
