เมื่อวันที่ (24 ก.ย.68) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส., พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ รอง ผกก.ดส., พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.สั่งการให้ ชุดปราบปรามยาเสพติด กก.ดส. นำโดย พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส.บช.น. นายอดิเรก อ่อนละมูล ผอ.ส่วนบังคับใช้กฏหมาย สำนักงาน ปปส.กทม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.ดส.
ได้ร่วมกันจับกุมตัว
- นางสาว อัจฉริยา หรือเนยฯ (สงวนนามสกุล)อายุ 22 ปี ผู้ถูกจับที่ 1 และ
2.นางสาว คณพิชญ์ หรือจุ๊บจิ๊บฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ถูกจับที่ 2
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ร่วมกับกันกับ สำนักงาน ปปส. กทม. สืบทราบว่ามียาเสพติดชนิดใหม่ ที่แพร่ระบาดอย่างมาก ในกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักท่องราตรี รวมทั้งเน็ตไอดอล และผู้ที่มีชื่อเสี่ยงในโลกออนไลน์ ใช้เสพติดชนิดนี้เป็นจำนวนมาก เรียกว่า “พอตเอโท” หรือ “พอตซอมบี้” ซึ่งเป็นพอตบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีส่วนผสมของสารเอโทมิเดท ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยกระดับการควบคุมยาเอโทมิเดต (Etomidate) จากเดิมที่เป็นยาควบคุมพิเศษ ให้เป็น “วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2” โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา หลังพบแนวโน้มการลักลอบนำไปผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในลักษณะที่เรียกว่า “บุหรี่ซอมบี้” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ปปส.กทม. จึงได้ทำการสืบสวนกระทั่งพบว่า มีเอเย่นต์ขายหัวพอร์ตยาซอมบี้ ดังกล่าว พักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ภายในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ และใช้สถานที่ดังกล่าวซุกซ่อน และจำหน่าย ยาซอมบี้ดังกล้าวด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ที่จึงได้ขออนุมัติศาลขอหมายค้น เพื่อเข้าตรวจค้น และจำกุม ผู้ต้องหา เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบผู้ต้องหา กำลังนำหัวพอร์ต ”ซอมบี้“ มาส่งให้ลูกค้าที่ บริเวณล็อบบี้ของคอนโด จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นก็พบว่าเป็นหัวพอร์ตดังกล่าว จำนวนหนึ่ง จึงได้แสดงหมายค้น เมื่อขึ้นไปบนห้องพักพบของกลาง 6 รายการ
1 หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของสารเอโทมิเดต จำนวน 19 ชิ้น
- บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของสารเอโทมิเดต จำนวน 2 เครื่อง
- วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดกดปิด – ดึงเปิด จำนวน 3 ถุง น้ำหนักรวมถุงทั้งสิ้นประมาณ 7.0 กรัม
- ถุงเก็บความเย็นสำหรับบรรจุหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าฯ เพื่อจำหน่าย จำนวน 125 ซอง
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
- สัญญาเช่าห้องฯ ที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ฉบับ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าขายจริง โดยจะขายให้กลุ่มคนมีเงิน ไฮโซเน็ตไอดอลคนมีชื่อเสียง ในราคาที่ 1800 ถึง 2000 บาท ต่อหัว และสามารถขายได้ ถึงวันละ 50-100 หัว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา
ผู้ถูกจับที่ 1 และ 2 “1.ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เอโทมิเดท) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
2.ร่วมกันช่วยช่อนเร่น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเอาเสียรับจำนำหรือรับไว้ประการใดซึ่งของตนพึ่งรู้ว่า เป็นของอันเนี่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติ ศุลกากร พ.ศ. 2560″
ผู้ถูกจับที่ 1 “มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด
- รถยนต์ ยี่ห้อ MERCEDES BENZ รุ่น C 220 d สีขาว จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท
- แผ่นป้ายทะเบียนประมูล จำนวน 4 แผ่น มูลค่าประมาณ 150,000 บาท
- โฉนดที่ดิน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่าประมาณ 1,195,600 บาท
- ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 27 ใบ มูลค่ารวม 27,000 บาท
- อายัดยอดเงินคงเหลือ บัญชีธนาคาร จำนวน 4 บัญชี จำนวน 4,936,867 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด ประมาณ 7,308,867 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่กก.ดส.สืบสวนขยายผล ผู้ต้องหาให้การว่าสั่งซื้อยาเสพติดจากชายชาวสิงคโปร์ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อในวันเดียวกัน โดยนัดส่งมอบเงินซื้อยาเสพติดจำนวนเงิน100,000บาท ที่ลานจอดรถคอนโดหรูย่านดินแดง เมื่อผู้ต้องหาชายชาวสิงคโปร์รับมอบเงินสดจำนวน100,000บาท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม MR. KINGLEY หรือทอมมี่ อายุ 33 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ถูกจับ ที่ 1 เมื่อขึ้นไปบนห้อง พบแฟนสาวของผู้ต้องหา ทราบชื่อ นางสาว ลลิตตา หรือแอนฯ อายุ 24 ปี ผู้ถูกจับที่2 และตรวจพบของกลางจำนวน 4รายการ 1 หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของสารเอโทมิเดท จำนวน 130 ชิ้น
- บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของสารเอโทมิเดท จำนวน 1 เครื่อง
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
- สัญญาเช่าห้องฯ ที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ฉบับ
โดยผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าลักลอบจำหน่ายหัวพอร์ตเอโทมิเดตร่วมกันจริง จึงแจ้งกล่าวหาว่า
ผู้ถูกจับที่ 1 และ 2 “1.ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เอโทมิเดท) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
2.ร่วมกันช่วยช่อนเร่น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเอาเสียรับจำนำหรือรับไว้ประการใดซึ่งของตนพึ่งรู้ว่า เป็นของอันเนี่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติ ศุลกากร พ.ศ. 2560″
ผู้ถูกจับที่ 1 “เป็นบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY)”
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด
- ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 823 ใบ มูลค่ารวม 823,000 บาท
- ธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ มูลค่ารวมประมาณ 2,098 บาท
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง มูลค่ารวมประมาณ 30,000 บาท
- กระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อ Louis Vuitton สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 บาท
- สร้อยข้อมือ ยี่ห้อ Van Cleef & arpels สีทอง – ดำ จำนวน 1 ใบ มูลค่ารวมประมาณ 3,000 บาท
- อายัดยอดเงินคงเหลือบัญชีธนาคาร จำนวน 1 บัญชี ยอดเงินคงเหลือ 135,861.59 บาท
รวมราคาทรัพย์สินที่ตรวจยึด ทั้งสิ้นประมาณ 1,013,956 บาท
- ทั้งนี้ยาเอโทมิเดท (Etomidate) เป็นยาชาที่นิยมใช้เพื่อนำสลบชนิดออกฤทธิ์ระยะสั้นเเต่ออกฤทธิ์เร็วที่ใช้เฉพาะในวงการแพทย์ตามโรงพยาบาลสำหรับฉีดเข้าเส้นเลือด
และเนื่องจากเอโทมีเดทมีฤทธิ์กดประสาท ออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นตัวรับ GABA ในระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดฤทธิ์ข้างเคียงอย่างเช่น รู้สึกผ่อนคลาย ง่วงนอน และอาจรู้สึกเคลิบเคลิ้ม ซึ่งเป็นลักษณะอาการที่ผู้เสพสารเสพติดต้องการ - สารเสพติดที่พบในปัจจุบันที่มีเอโทมีเดทผสมอยู่ เรียกว่า “บุหรี่ซอมบี้” โดยถูกบรรจุอยู่ในรูปแบบของ “หัวพอต” และมีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และยาเสพติดชนิดอื่นผสมอยู่ด้วย ซึ่งในไทยเป็นที่นิยมในนักท่องเที่ยวยามราตรีในย่านทองหล่อ ห้วยขวาง และถูกลักลอบจำหน่ายตามช่องทางออนไลน์ มีวิธีการเสพเหมือนกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป โดยการสูดเข้าปอด ในระหว่างเสพจะมีอาการคล้ายกับการเสพเคตามีน มีอาการเคลิบเคลิ้มคล้ายฝันกลางวัน มึนงง เกิดภาพหลอน เป็นต้น ในกรณีที่เสพมากเกินไปจะทำให้ผู้เสพขาดสติ ไม่รู้สึกตัว อาการคล้ายกับซอมบี้เดิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อว่า “บุหรี่ซอมบี้”
- บุหรี่ไฟฟ้าที่เดิมก็มีอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบมากอยู่แล้ว การที่นำมาใช้ผสมกับ เอโทมีเดท ซึ่งเป็นยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท “บุหรี่ซอมบี้” ที่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสารแต่ละชนิดผสมลงไปมากน้อยแค่ไหน ยิ่งส่งผลให้อันตรายมีมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งอาจทำให้ผู้เสพมีอาการ ดังต่อไปนี้
•ง่วงซึมอย่างรุนแรง
•อัตราการหายใจช้าลง
•เกิดภาวะหายใจช้าจนถึงขั้นอันตราย
•ความดันโลหิตต่ำ
•คลื่นไส้ อาเจียน
•เกิดภาวะขาดออกซิเจน
•หมดสติ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้





