วันอังคาร, ตุลาคม 7, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมสูญกว่า 20 ล้าน! ทนายรณณรงค์ เตรียมบุกกองปราบ พรุ่งนี้ พาเหยื่อ "ร่างทรงเมียพญานาค" แจ้งความฉ้อโกงประชาชน

Related Posts

สูญกว่า 20 ล้าน! ทนายรณณรงค์ เตรียมบุกกองปราบ พรุ่งนี้ พาเหยื่อ “ร่างทรงเมียพญานาค” แจ้งความฉ้อโกงประชาชน

มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เตรียมพาผู้เสียหายรวมตัวยื่นหลักฐานเอาผิดขบวนการร่างทรง อ้างสามารถติดต่อพญานาค หลอกขายวัตถุมงคลราคาสูง ชี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนและทำลายศรัทธาทางศาสนา

วันที่ 6 ต.ค.68 ทนาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เตรียมนำกลุ่มผู้เสียหายจากกรณี “ร่างทรงพญานาค” เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ในวันพรุ่งนี้ (อังคารที่ 7 ตุลาคม 2568) เวลา 09.30 น. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้สืบเนื่องจากมูลนิธิฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวนมากที่ถูกขบวนการ “ร่างทรงเมียพญานาค” หลอกลวงให้หลงเชื่อในอิทธิฤทธิ์และเช่าบูชาวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง รวมถึงการทำพิธีกรรมเสริมดวงในราคาสูงลิ่ว โดยมูลค่าความเสียหายรวมของผู้ตกเป็นเหยื่อกลุ่มนี้สูงกว่า 20 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2568 นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี อาชีพเจ้าของคลินิกทำฟัน พร้อมผู้เสียหายอีก 3 ราย ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อว่าที่ร้อยตรีรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ

นางเอ เปิดเผยว่า ตนมีความเชื่อเรื่องพญานาคอยู่แล้ว จนเมื่อปี 2562 ได้รู้จักกับขบวนการดังกล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊กที่โฆษณาว่าหญิงสาวรายหนึ่งเป็นร่างทรง อ้างตนเป็น “เมียพญานาค” และสามารถติดต่อกับเทพได้ โดยมีการอ้างถึงลูกศิษย์ที่เป็นดาราชื่อดังจำนวนมากมาเคารพกราบไหว้ ทำให้ตนหลงเชื่อและเริ่มเช่าบูชาวัตถุมงคลในราคา 3,999 บาท และถูกหลอกให้เช่าเรื่อยมาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนบาท

นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น การจ้างแต่งเพลงใหม่เพื่อไป “เปิดรำถวายให้กับพญานาค” อีก 50,000 บาท โดยอ้างว่าพญานาคเบื่อเพลงเก่าแล้ว จนตนเองสูญเงินไปกว่า 1 ล้านบาท แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้นตามที่กลุ่มร่างทรงอวดอ้างสรรพคุณว่าชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง ตรงกันข้าม ตนเองเกือบถูกสามีไล่ออกจากบ้านเนื่องจากความหลงเชื่อและเสียเงินเสียทองไปเป็นจำนวนมาก

หลังจากเริ่มสงสัยและไปสอบถามเพื่อนในกลุ่มลูกศิษย์ จึงพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกหลายสิบราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท โดยเฉพาะวัตถุมงคลราคาหลักหมื่นหลักแสนที่นำมาให้เช่าบูชานั้น หากไปซื้อออนไลน์ราคาจริงเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น บางรายถึงขั้นต้อง “ผ่อนของขลัง” ทั้งที่ยังคงมีชีวิตที่เดือดร้อน
มูลนิธิชี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน เตรียมส่งมอบหลักฐานให้กองปราบ

ด้าน ว่าที่ร้อยตรีรภัสสิทธิ์ รองประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มร่างทรงดังกล่าวเข้าข่ายการใช้ความเชื่อทางศาสนามาแสวงหาผลประโยชน์อย่างมิชอบ ทำให้ประชาชนสูญเสียเงินทองและทำลายศรัทธา โดยพิจารณาแล้วว่าการกระทำนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และอาจเข้าข่ายการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ซึ่งมีโทษหนักถึงจำคุก


ในการเข้าแจ้งความวันพรุ่งนี้ ทนายรณณรงค์จะนำพยานหลักฐานสำคัญต่างๆ เช่น ใบโอนเงิน ข้อความโฆษณาชวนเชื่อ และคลิปวิดีโอการชักชวน ไปมอบให้พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามเพื่อประกอบการดำเนินคดี เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมาย และเป็นการหยุดยั้งการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบที่ใช้ความเชื่อมาเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์อย่างมิชอบต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts