“…มามีเพศสัมพันธ์พร้อมบันทึกคลิปโพสต์ในกลุ่มลับ หวังรายได้จากการเข้ากลุ่ม…”
[inline_related_posts title=”คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้” title_align=”left” style=”list” number=”4″ align=”none” ids=”” by=”categories” orderby=”rand” order=”DESC” hide_thumb=”no” thumb_right=”no” views=”no” date=”yes” grid_columns=”2″ post_type=”” tax=””]
เบื้องต้นพบเงินรายได้หมุนเวียนหลักแสนบาท
ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ฯ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. จับกุม นายนิติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ในข้อหาค้ามนุษย์ฯ เป็นการขยายผลมาจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ฯ ซึ่งเป็นแอดมินกลุ่มเกี่ยวกับการหลอกลวงเด็ก หรือเยาวชน มาถ่ายคลิปลามกอนาจาร หลังจากนั้นจะนำคลิปวีดีโอ ลามกอนาจารดังกล่าวมาขายในกลุ่มลับให้กับผู้ที่สนใจ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเด็ก หรือเยาวชน ตกเป็น ผู้เสียหายจำนวนหลายราย
กระทั่งพบว่า มี ผู้ใช้ บัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ “กร (ตัวจริง) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว มากกว่า 2.9 แสนบัญชี (ดาวทวิตเตอร์) มีการลงภาพและข้อความเนื้อหา เกี่ยวกับภาพลามก-อนาจาร ซึ่งเห็นอวัยวะเพศเด็กชาย และการร่วมเพศสัมพันธ์ของเด็กชายกับตนเองจำนวนมาก พร้อมข้อความเชิญชวนว่าหากใครสนใจคลิปวีดีโอดังกล่าวสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มลับของแอฟพลิเคชั่นไลน์ โดยต้องเสียเงินค่าเข้ากลุ่ม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แฝงตัวสมัครเป็นสมาชิกเพื่อเข้ากลุ่ม จากการตรวจสอบพบว่ามีการเผยแพร่คลิป ขณะแอดมิน
กลุ่มมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายราย ซึ่งเชื่อว่าเด็กชายจำนวนดังกล่าว มีการถูกล่อลวงมา จึงได้เข้าช่วยเหลือเด็กชายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ถูกหลอกลวงมาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับที่ 1080/2565 ลงวันที่
7 มิถุนายน 2565 ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยได้กระทำแก่เด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ร่วมกันชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และ ร่วมกันใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดและกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด”
หลังจากนั้น พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. มอบหมายให้ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.2 บก.ปคม. เข้าจับกุม นายนิติกร (สงวนนามสกุล)
อายุ 29 ปี สัญชาติไทย ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อำเภอชะอำ จังหวัด เพชรบุรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 โดยนายนิติกรฯ ให้การรับสารภาพว่า เป็นแอดมินกลุ่ม และเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ“กร (ตัวจริง)” และกลุ่มไลน์ลับ
นอกจากนี้ นายนิติกรฯ ยังรับว่าเป็นผู้ถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชาย อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน หลายราย โดยตนได้หลอกชักชวนเด็กผู้ชายที่หน้าตาดี หรือเน็ตไอดอลต่างๆที่รู้จักกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์มามีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน ครั้งละ 2,000-3,000 บาท และเมื่อตนอัดคลิปวีโอดังกล่าวแล้ว จะนำมาขายและเผยแพร่ในกลุ่มลับที่ตนเองเป็นแอดมิน โดยตนเองจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าเข้ากลุ่มจากสมาชิก รายละ
500-1,000 บาท ซึ่งทำมานานกว่า 4 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีความห่วงใย เด็กผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพราะนอกจากความเสียหายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับเด็กเหล่านี้แล้ว ยังมีความเสียหายทางจิตใจที่จะฝังรากลึก ส่งผลกระทบต่อใช้ชีวิตในอนาคต จึงฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชนที่อาจตกเป็นผู้เสียหาย
และผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ให้สังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานว่ามีการใช้จ่ายเงินในลักษณะที่ฟุ่มเฟือยหรือไม่ รวมทั้งหมั่นตรวจสอบการใช้สื่อออนไลน์ของเด็กว่ามีความผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่
ในส่วนของผู้ที่มีสื่อลามกเด็กไว้ในครอบครอง จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการส่งต่อสื่อลามกเด็ก หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และฝากเตือนผู้ที่คิดจะหลอกลวงเด็กหรือเยาวชน มาบันทึกภาพวีดีโอแล้วนำมาเผยแพร่เพื่อหารายได้ ว่ากระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ และเป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกกว่าสิบปีต่อการกระทำผิดหนึ่งครั้ง และมีอายุความดำเนินคดี 20 ปี
หากประชาชนมีเบาะแส หรือได้รับความเดือนร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กองบังคับการปราบปราม
การค้ามนุษย์ หรือ โทร สายด่วน 1191 หรือเพจเฟสบุ๊ก กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ “เป็นมืออาชีพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย คืนคุณค่าความเป็นคน ประชาชนได้พึ่งพา”
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สารวัตร กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ โทรศัพท์ : 097-191-7447