วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 20, 2025
หน้าแรกข่าวประชาสัมพันธ์กสม. ชี้ “อ่างเก็บน้ำคลองมะเดื่อ” กระทบมรดกโลก-ช้างป่า แนะยกเลิกโครงการ! เสนอทำ SEA ใหม่เปิดให้ประชาชนร่วมตัดสินใจ

Related Posts

กสม. ชี้ “อ่างเก็บน้ำคลองมะเดื่อ” กระทบมรดกโลก-ช้างป่า แนะยกเลิกโครงการ! เสนอทำ SEA ใหม่เปิดให้ประชาชนร่วมตัดสินใจ


กสม. ออกแถลงการณ์แนะกรมชลประทานยุติโครงการ “อ่างเก็บน้ำคลองมะเดื่อ” จังหวัดนครนายก หลังตรวจสอบพบกระทบหนักต่อพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น–เขาใหญ่ ชีวิตชุมชน และระบบนิเวศธรรมชาติ ชี้ขั้นตอนจัดทำ EIA ไม่โปร่งใส-ประชาชนไม่มีส่วนร่วม เสนอจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ใหม่ โดยให้ประชาชนร่วมออกแบบอย่างแท้จริง

น.ส.ศิริลดา ผิวหอม หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนเมษายน 2566 ว่า กรมชลประทาน เตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำคลองมะเดื่อ หมู่ 1 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โดยผู้ร้องระบุว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยไม่เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างเพียงพอ และอาจกระทบต่อที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย และสิ่งแวดล้อมรอบพื้นที่ รวมถึงช้างป่าที่หากินอยู่ในบริเวณนั้น

จากการตรวจสอบของ กสม. พบว่า โครงการอ่างเก็บน้ำคลองมะเดื่อมีขนาดความจุ กว่า 85 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,850 ไร่ โดยกว่า 1,100 ไร่ อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ “กลุ่มป่าดงพญาเย็น–เขาใหญ่” และอีก 500 ไร่ อยู่ในเขตป่าคุ้มครองน้ำตกสาริกา

พื้นที่ดังกล่าวเป็น ลุ่มน้ำชั้น 1A ซึ่งมีระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์หายาก รวมถึงโขลงช้างป่าหลายฝูง
หากมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ อาจกระตุ้นให้ช้างป่ารุกเข้าชุมชนบ่อยขึ้น เนื่องจากมีแหล่งน้ำถาวรในพื้นที่อนุรักษ์ อีกทั้งยังทำให้ถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ลดลง

แม้โครงการจะอ้างว่าเป็น “อ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง แต่การตรวจสอบพบว่า พื้นที่ตำบลสาริกา ไม่ได้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ
เพราะส่วนใหญ่ทำสวนผลไม้ซึ่งใช้น้ำน้อย และมี เขื่อนขุนด่านปราการชล อยู่ห่างเพียง 1.7 กิโลเมตร จึงอาจเกิดการซ้ำซ้อนของพื้นที่ชลประทานโดยไม่จำเป็น

หากดำเนินโครงการจริง ประชาชน 49 ครัวเรือนต้องถูกโยกย้ายออกจากพื้นที่ และที่ดินกว่า 1,100 ไร่ จะถูกเวนคืน ทำให้สูญเสียทั้งพื้นที่ทำกินและวิถีชีวิตชุมชน

กสม. พบว่า การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของกรมชลประทาน ขาดความโปร่งใสและไม่สะท้อนข้อเท็จจริง โดยมีการจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนแต่ไม่ทั่วถึง ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ ยกมือคัดค้าน แต่รายงานกลับระบุว่ามีผู้ “เห็นด้วยถึง 70%”

นอกจากนี้ รายงานยัง ขาดข้อมูลสำคัญ เช่น พันธุ์พืชกว่า 200 ชนิด พันธุ์ปลา 23 ชนิด และสัตว์ป่าหายากหลายประเภท รวมถึงมีข้อผิดพลาด เช่น ระบุว่าพื้นที่หมู่ 1 ปลูกข้าว ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่ได้ทำการเกษตรแบบนั้นแล้ว อีกทั้งการจัดรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมในปี 2566 ยังจัดในพื้นที่สัญญาณโทรศัพท์ไม่เสถียร ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถเข้าร่วมได้

จากผลการตรวจสอบทั้งหมด ที่ประชุม กสม. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 มีมติให้ กรมชลประทานยกเลิกโครงการอ่างเก็บน้ำคลองมะเดื่อ
รวมถึง โครงการก่อสร้างเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตประชาชน และคุณค่าของพื้นที่มรดกโลก

พร้อมเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ การประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ในระดับลุ่มน้ำใหม่ โดยมี ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมตัดสินใจอย่างแท้จริง

กสม. ยังเสนอให้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หารือร่วมกับ คณะกรรมการมรดกโลก (UNESCO) และ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เพื่อวางแนวทางการอนุรักษ์และกำหนดขอบเขตการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระดับยุทธศาสตร์ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยคำนึงถึงการคงไว้ซึ่งคุณค่าของแหล่งมรดกโลกเป็นสำคัญ

#กสม #คลองมะเดื่อ #นครนายก #มรดกโลกเขาใหญ่ #ป่าดงพญาเย็น #ช้างป่า #EIA #SEA #สิทธิมนุษยชน #ข่าวสิ่งแวดล้อม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts