ตำรวจท่องเที่ยวผนึกกำลังกรมการท่องเที่ยว บุกรวบหนุ่มใหญ่อังกฤษวัย 53 ปี ลอบเปิดบริษัททัวร์เถื่อนผ่านเว็บไซต์ “จัดเอง-ขับเอง-นำเที่ยวเอง” ครบวงจร 5 จังหวัด 18 วัน แฉแสบแอบทำมานานกว่า 10 ปี ทำลายภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยพังยับ สั่งเชือดหนักคุก 2 ปี ปรับครึ่งล้าน!
วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เเพือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. สนธิกำลังกับกรมการท่องเที่ยว เข้าทลายขบวนการทัวร์เถื่อนข้ามชาติที่สร้างความเสียหายให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องในห้วงเทศกาลไฮซีซัน (High Season)
ปฏิบัติการครั้งนี้สามารถจับกุม Mr. Nicholas Mark Upton อายุ 53 ปี สัญชาติอังกฤษ (บริติช) หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแฝงตัวติดตามพฤติกรรมตามข้อร้องเรียน พบพฤติการณ์สุดแสบคือการเปิด “ทัวร์เถื่อนแบบครบวงจร” ผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว โดยนายนิโคลัสทำหน้าที่เป็นทุกอย่างในคนเดียว ตั้งแต่จัดโปรแกรมนำเที่ยว ขับรถรับ-ส่ง และเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยวชมสัตว์ป่าตามอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ โดยไม่มีคนไทยร่วมทีมแม้แต่คนเดียว
แฉพฤติกรรม “มาราธอนทัวร์” ทำลายระบบ-เสี่ยงอันตราย
จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า นายนิโคลัสจัดทัวร์ยาวต่อเนื่องถึง 18 วัน วนเที่ยว 5 จังหวัด โดยเรียกเก็บค่าบริการจากนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าแอบดำเนินการในลักษณะนี้มานานกว่า 10 ปี สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
นอกจากเรื่องกฎหมายแล้ว เจ้าหน้าที่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเส้นทางท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติมีความลาดชันและซับซ้อน ซึ่งตามกฎหมายต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญเฉพาะทางในการนำเที่ยว การที่ชาวต่างชาติขับรถและนำทัวร์เองจึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อนักท่องเที่ยวได้
แจ้ง 2 ข้อหาหนัก ส่งตัวดำเนินคดีทันที
เจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวจับกุมในวันสุดท้ายของทริป โดยผู้ต้องหาไม่สามารถแสดงใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวหรือใบอนุญาตมัคคุเทศก์ได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังนี้:
ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต: มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน: หรือทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้ ตาม พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด พร้อมย้ำเตือนนักท่องเที่ยวให้เลือกใช้บริการบริษัททัวร์ที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยและร่วมกันสร้างมาตรฐานที่ดีให้กับการท่องเที่ยวไทย











