เมื่อ วันที่ 28 ธ.ค.68 เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี (เก่า) บริเวณแยกศาลาแดง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หนึ่งในนั้นเป็นหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด สร้างความกังวลให้แก่ผู้พบเห็น
”นิกม์ แสงศิรินาวิน“ที่ปรึกษาสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รีบเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ และผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ ชายชาวไทยผู้ขับขี่ มีอาการบาดเจ็บตามร่างกาย และ หญิงชาวลาว (ภรรยา) ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน มีอาการปวดท้องจากแรงกระแทก
ทีมอาสาฯ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด พร้อมประสาน หน่วย Best (ฝ่ายเทศกิจ) เข้าเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุและคราบน้ำมันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ
ปัญหาพบว่า สิทธิการรักษาและการปฏิเสธคนไข้ จากการตรวจสอบสิทธิการรักษา พบปัญหาที่น่ากังวล คืน ฝ่ายสามี (คนไทย)เข้ารับการรักษาตามสิทธิ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถได้ทันที ส่วนฝ่ายภรรยา (ชาวลาว)แจ้งว่าไม่ได้พกเอกสารติดตัวมา ซึ่งตามระเบียบปกติของบางโรงพยาบาล หากไม่มีเอกสารหรือหลักฐานแสดงสิทธิ อาจส่งผลให้คนไข้ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
ในเคสนี้ ทางโรงพยาบาลที่รับตัวแจ้งในเบื้องต้นว่า ไม่มีแพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวช อย่างไรก็ตาม ยังมีมนุษยธรรมช่วยตรวจเช็กอาการเบื้องต้นให้ก่อน
ซึ่ง นิกม์ ตั้งข้อสังเกตว่า หลายครั้งที่ผ่านมา มักพบปัญหาโรงพยาบาลปฏิเสธการรับตัวคนไข้ต่างด้าวที่ไม่มีเอกสาร หรือเคสที่มีความซับซ้อน ทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสในการรักษาที่ทันท่วงที
“สำหรับตนไม่ว่าจะเป็นเคสสีเขียว (บาดเจ็บเล็กน้อย) หรือเคสหนักแค่ไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาชีวิตคน โรงพยาบาลควรรักษาให้ดีที่สุดก่อน โดยไม่ควรนำเรื่องสัญชาติหรือการพกเอกสารมาเป็นเงื่อนไขในการปฏิเสธการรักษา เพราะอุบัติเหตุและชีวิตคนรอไม่ได้”
นิกม์ ย้ำว่า อยากให้เคสนี้เป็นกรณีตัวอย่างในการพัฒนาระบบการรับส่งต่อผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างหญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด











