เมื่อความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม… ก้าวเข้าสู่ปี 2569 วงการยุติธรรมไทยเตรียมสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ“ทนายปราบโกง” ออกมาประกาศจุดยืนเคียงข้างประชาชนผู้บริสุทธิ์ 46 ชีวิต เตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีอาญาครั้งใหญ่ต่อเจ้าหน้าที่รัฐและอัยการ รวมกว่า 20 ราย เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีและความเป็นธรรม
เปิดหน้าชก! ฟ้อง 21 เจ้าหน้าที่รัฐ-อัยการ
ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ทนายปราบโกงเตรียมนำประชาชนทั้ง 46 คน เข้ายื่นฟ้องต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อเอาผิดกับ
1.ผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย กว่า 10 คน
2.พนักงานอัยการ 11 คน
ในข้อหาความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ) โดยยืนยันชัดเจนว่า “นี่ไม่ใช่การฟ้องซ้ำ และไม่ขาดอายุความ” แต่เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตจนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
ย้อนรอยตราบาป เมื่อพยานหลักฐาน “ว่างเปล่า” แต่ยังดันทุรังฟ้อง ชนวนเหตุสำคัญมาจากคดีพิเศษที่การท่าเรือฯ เป็นผู้ก่อขึ้น นำไปสู่การฟ้องร้องประชาชน 34 คน อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ได้มีคำพิพากษา “ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด” โดยให้เหตุผลว่า “พนักงานอัยการโจทก์ ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยแต่ละคนได้”
คำถามที่สังคมต้องช่วยกันหาคำตอบคือ
-หากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ตั้งแต่ต้น… ดันทุรังฟ้องประชาชนทำไม?
-เมื่อศาลยกฟ้องแล้ว เหตุใดจึงยังดันทุรัง ยื่นอุทธรณ์ต่อไป?
-ซ้ำร้ายยิ่งกว่า คือการยื่นอุทธรณ์แม้กระทั่งกับ จำเลยที่ 23 ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว!
การไม่ยอมยุติคดีทั้งที่ผู้บริสุทธิ์ไม่มีโอกาสได้อยู่ดูความยุติธรรม ถูกตั้งคำถามอย่างรุนแรงว่า นี่คือ“ตราบาปของพนักงานอัยการโจทก์” หรือไม่?
บททดสอบศีลธรรมกระบวนการยุติธรรมไทย
การขยับตัวของประชาชน 46 คนในครั้งนี้ ในต้นปี 69 ไม่ใช่การแก้แค้น แต่คือการ “ทวงคืนความรับผิดชอบ”
ทนายปราบโกงระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐต้องตระหนักว่าอำนาจที่อยู่ในมือนั้นมีไว้เพื่อคุ้มครองประชาชน ไม่ใช่เพื่อรังแกหรือสร้างภาระให้ผู้บริสุทธิ์
“ปีม้า (พยศ)2569“ ที่จะถึงนี้ คดีนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญว่า กระบวนการยุติธรรมไทยจะยืนหยัดอยู่ข้างความถูกต้อง และกล้าที่จะตรวจสอบ “คนใน” หรือไม่ ?!!
ความยุติธรรมที่มาช้าเกินไป คือความอยุติธรรมที่ประชาชนแบกรับมานานเกินพอแล้ว และบัดนี้ถึงเวลาที่ผู้ใช้อำนาจต้องตอบคำถามต่อหน้าศาลปราบโกง!




