‘วัชระ’ จัดให้! จี้ ป.ป.ช.เร่งสอบ ‘เรืองไกร’ ร่ำรวยผิดปกติ-รับรถเบนซ์หรู 2 คันจากผู้ใหญ่ใจดี
(27มิ.ย.65) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ว่าที่ร้อยตรีสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ ยื่นหนังสือผ่าน นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช.ถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.
ขอให้สอบสวนการกระทำของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงและผิดกฎหมาย ป.ป.ช. หรือไม่ และขอทราบผลการสอบสวนกรณีร่ำรวยผิดปกติ โดยข้อเท็จจริงตามที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และปัจจุบันเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เป็นผู้ใช้อำนาจรัฐสั่งหรือมีมติให้หน่วยราชการของรัฐทุกหน่วย รัฐวิสาหกิจทุกแห่ง องค์กรอิสระทุกแห่ง สั่งให้ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานองค์กรอิสระปฏิบัติตาม ได้ลงเฟสบุ๊คของตนเองเมื่อวันที่ 18 ก.ค.64 ระบุว่า “ผู้ใหญ่ใจดีให้เงินซื้อรถใหม่เอาไว้ใช้ตามใจที่อยากได้ S 560 ป้ายแดงเลข 8807 หวยที่ออกก็ตรงด้วย 555” และให้สัมภาษณ์สื่อในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เมื่อวันที่ 19 ก.ค.64 บอกว่า “จริงๆเป็นเรื่องที่พูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว จะ 60 ปี จะเกษียณจะครบรอบวันเกิดวันที่ 26 ส.ค.นี้ อยากได้อะไร ผมก็บอกว่า จริงๆเงินซัก20-30 ล้านบาทก็ยังพอโอเค เขาบอกไม่ได้ เขาก็ถามว่า รถอยากได้ไหม ผมก็บอกว่า โอเค สุดท้ายก็ได้แค่รถ เงินยังไม่ได้เลย” ทั้งให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์มติชน เดลินิวส์และข่าวสดว่า “รถเบนซ์คันดังกล่าวรวมค่าประกันตกแต่งแล้วและอื่นๆ เบ็ดเสร็จมูลค่า 5 ล้านบาท และยังประกาศว่าถ้าป.ป.ช. จะตรวจสอบเชิญ หรือนักการเมืองคนใดสงสัยเชิญ” ต่อมาวันที่ 24 ก.ย.64นายเรืองไกร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เรืองไกร”เผยภรรยาคือ “ผู้ใหญ่ใจดี” ซื้อเบนซ์ให้ ลุยร้องยุบ พท.- ทบทวนแก้ รธน.” แม้นายเรืองไกรจะให้ข่าวว่า “ภรรยาคือ ผู้ใหญ่ใจดี”ให้เงินซื้อเบนซ์ นายเรืองไกรก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เงินที่ซื้อรถเบนซ์ 2 คัน ชำระเงินโดยวิธีใด เป็นเงินสดหรือจ่ายเป็นเช็คธนาคารใด หากเป็นเงินสดเบิกเงินสดมาจากบัญชีใด ธนาคารใด วันที่เท่าไร ชำระอย่างไร ให้แก่ผู้ใดและซื้อในราคาปกติหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงในโลกใบนี้เป็นที่สงสัยว่ามีภรรยาของผู้ใดบ้างที่ซื้อรถเบนซ์ราคาแพงถึง 2 คันซ้อนๆให้กับสามีวัยสูงอายุของตน จึงเป็นที่สงสัยของสาธารณชนอย่างยิ่ง
นายวัชระ เพชรทอง และ ว่าที่ร้อยตรี สุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ จึงขอร้องเรียนตามความประสงค์และความต้องการของนายเรืองไกร ที่เคยประกาศไว้ โดยขอร้องเรียนต่อคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรให้ตรวจสอบและสอบสวนนายเรืองไกร ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 และขณะได้รับรถเบนซ์ทั้ง 2 คันนั้น ถือว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” แล้วและต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายอาญา กฎหมาย ป.ป.ช. และประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 อย่างเคร่งครัด การที่นายเรืองไกรเป็นผู้ป่าวประกาศทางเฟสบุ๊คของตนเองอย่างเอิกเกริกว่าได้รับรถเบนซ์ดังกล่าว เท่ากับประกาศยอมรับต่อสาธารณชนว่าได้รับทรัพย์สินเกินกว่า 3 พันบาท อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 หรือไม่ และอาจมีความผิดตามกฎหมายอื่นหรือไม่ และเป็นการผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ตามบัญชีท้ายข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 หรือไม่
นายวัชระ กล่าวว่า กรณีนี้อยู่ในความสนใจของสังคมเพราะก่อนหน้านี้นายเรืองไกร อดีตสมาชิกวุฒิสภาได้ออกมาเปิดเผยข่าวว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. สอบสวนพฤติการณ์การส่อความร่ำรวยผิดปกติ เพราะป.ป.ช.มีหนังสือที่ ปช.0015/1507 ลงวันที่ 17 ก.ย.63 ถามนายเรืองไกรว่าสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายเรืองไกร โดยเปรียบเทียบรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง กับกรณีพ้นจากตำแหน่ง ปรากฏว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 34 ล้านบาท
ดังนั้นเมื่อนายเรืองไกรกำลังอยู่ในระหว่างการถูกสอบสวนจากคณะกรรมการป.ป.ช.ว่าร่ำรวยผิดปกติตามที่ นายเรืองไกรกล่าวอ้าง ป.ป.ช.สอบสวนเสร็จสิ้นแล้วหรือไม่ ควรแถลงต่อสาธารณชนโดยเร็วที่สุด พร้อมกับขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.สอบสวนกรณีรับรถเบนซ์ 2 คันโดยเร็วที่สุดหรือภายในเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่นายเรืองไกรจะหมดหน้าที่การเป็นกมธ.วิสามัญพิจารณางบประมาณปี 2566 เพราะการปฏิบัติหน้าที่ของนายเรืองไกรเป็นผู้พิจารณางบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาทที่เป็นเงินภาษีอากรของตนและประชาชนทั้งประเทศ