“วัชระ” จับมือ “สารวัตรแรมโบ้” ยื่นหนังสือร้อง มท.ขอให้มีการตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อแก้ระเบียบการแปลงสัญชาติแก๊งคนจีนสีเทา และตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเปิดยุทธการเชิงรุกพร้อมกันทั่วประเทศ และดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่วมมือช่วย เสนอควรมีกฎหมายที่มีบทลงโทษสถานหนัก เช่น จำคุกสูงสุด 20 ปีถึงตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
(9 ธ.ค.65) เมื่อเวลา 11.40 น.ที่กระทรวงมหาดไทย นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และ พ.ต.อ. สุรโชค เจษฎาเดช หรือ “สารวัตรแรมโบ้” ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย ยื่นหนังสือผ่านนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทยถึง พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยและ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง
โดยในหนังสือของ พ.ต.อ.สุรโชค ระบุว่า ขอให้มีการตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อแก้ระเบียบการแปลงสัญชาติแก๊งคนจีนสีเทา และตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเปิดยุทธการเชิงรุกพร้อมกันทั่วประเทศ รวมทั้งดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่วมมือช่วยเหลือปลอมแปลงบัตรประชาชนให้คนเหล่านี้อาศัยแผ่นดินไทยทำมาหากินอย่างผิดกฎหมายทั้งเรื่องยาเสพติด ค้าอาวุธ บ่อนการพนัน และอื่นๆ ซึ่งทำเป็นขบวนการใหญ่มาก มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ จึงควรมีกฎหมายที่มีบทลงโทษสถานหนัก เช่น จำคุกสูงสุด 20 ปีถึงตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
จึงขอให้รัฐมนตรีมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครองเร่งดำเนินการคือ
1.จัดตั้งชุดฝ่ายกฎหมายการแปลงสัญชาติให้รัดกุม ยากต่อการที่คนจีนสีเทาหรีอคนต่างชาติจะเข้ามาแปลงสัญชาติได้โดยง่าย ควรเพิ่มข้อระเบียบให้มากขึ้น และหากพบว่ามีการผิดกฎหมายร้ายแรงก็ต้องถูกถอนสัญชาติส่งกลับประเทศถิ่นกำเนิดทันที รวมทั้งต้องยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินทันที
2.ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเปิดยุทธการรุกเข้าตรวจค้นและจับกุมทันทีโดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำใน กทม.มักจะมีคนจีนเข้ามาซื้อกิจการไว้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคนเหล่านี้พูดไทยไม่ชัดแต่มีบัตรประชาชนทุกคน รวมทั้งแหล่งชุมชนที่มีคนจีนเช่าจำนวนมาก ต้องตั้งศูนย์รับแจ้งจากประชาชนทั่วประเทศพร้อมกัน กรณีที่มีคนเสียชีวิตแล้วต้องตรวจสอบว่ามีการแจ้งต่อทางราชการอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีการนำเอาคนจีนมาสวมสิทธิแทน โดยใช้เลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีการดำเนินอย่างเด็ดขาดและจริงจัง ปัญหาเหล่านี้ก็จะคลี่คลายและหมดไปในที่สุด
ด้าน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทยและนายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สอบถามเกี่ยวกับคดีของนายตู้ห่าวว่า
1. การอนุมัติสัญชาติไทยให้บุคคลต่างด้าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ถึงปัจจุบัน ในสมัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้นกี่ราย ต้นทางสัญชาติใดบ้าง
2. กระทรวงมหาดไทยมีการติดตามพฤติกรรมผู้ได้สัญชาติไทยหรือไม่
3. มีข่าวว่าต้องมีการจ่ายเงินจำนวนมากในการโอนมาเป็นสัญชาติไทยจริงหรือไม่
4. มีมาตรการป้องกันไม่ให้อาชญากรจากต่างประเทศโอนเป็นสัญชาติไทยได้อย่างไรและที่ได้สัญชาติไทยแล้วจะเพิกถอนสัญชาติคนจีนสีเทาหรือมาเฟียจากสัญชาติอื่นอย่างไร เมื่อใด ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงของชาติ
5. กรณีสวมบัตรประชาชนคนไทยที่เสียชีวิตไปแล้ว จะตรวจสอบทั้งประเทศอย่างไร เมื่อใด
6. จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับทุกหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับจีนสีเทาหรือสวมบัตรประชาชนไทยอย่างไร เมื่อใด
7. ปัจจุบันมีคนสัญชาติจีนรออนุมัติเป็นบุคคลสัญชาติไทยอีกจำนวนเท่าใด และจะอนุมัติหรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้จากกรณีกระทำความผิดของ นายห่าว เจ๋อ ตู้ กับพวกคนจีน (จีนสีเทา) สะท้อนให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนไปตอบสนองและสนับสนุนการกระทำดังกล่าว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนขอให้พิจารณาตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามตรวจค้นในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดภายใน 30 วัน
#สืบจากข่าว : รายงาน