ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 15 ธ.ค. 65 พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผบ.ชค. กรม.ทพ.13 (ผู้บังคับการ ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่13) จัดกำลังพล กองร้อยทหารพรานที่ 1301 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ประสานความร่วมมือกับ จนท.ชุดสืบสวน สภ.คลองน้ำใส จ.สระแก้ว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ จนท.ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ออกลาดตะเวนเข้มป้องกัน และสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายเข้า-ออกประเทศไทย บริเวณชายแดนช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลม ตามนโยบายของ พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่กำชับมายังกองกำลังบูรพาคุมเข้มตลอดแนวชายแดน ในห้วงก่อนเทศกาลปีใหม่
“ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วม ร้อย ทพ. 1301ฯ ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 4 คน กำลังเข็นรถ จยย. 4 คัน ลัดเลาะตามป่าละเมาะออกจากท้ายหมู่บ้าน บ้านใหม่ปากฮ่อง ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มุ่งหน้าจะลอบข้ามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติฯ จนท.จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม แต่ชายต้องสงสัยทั้ง 4 คน เกิดไหวตัวทิ้งรถ จยย.ไว้ข้างทางแล้ววิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปคนละทิศละทาง แต่ จนท.สามารถไล่สกัดจับไว้ได้จำนวน 2 คน ชื่อนายศราวุธ ปัญญามา อายุ 47 ปี และนายกิตติพงษ์ ดานนท์ อายุ 26 ปี ชาว ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะริมชายแดนพบรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกทิ้งไว้ข้างทางจำนวน 4 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น Scoopy ฟ้า – ขาว, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น Scoopy ขาว, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น Scoopy ขาว และ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น Scoopy ขาว จนท.จึงร่วมกันตรวจยึดรถ จยย.ทั้ง 4 คัน และควบคุมชายไทยทั้ง 2 คน มาทำการสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1301ฯ
ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นชาวไทยทั้ง 2 คน อ้างว่าตน และพวกอีก 2 คนที่หลบหนี เป็นเพียงผู้รับจ้างนำรถ จยย.ข้ามตะเข็บชายแดนไปฝั่งเขมรเท่านั้น แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยถึงผู้ว่าจ้าง และราคาค่าจ้าง จนท.จึงควบคุมตัวคนไทยทั้ง 2 คน พร้อมของกลาง รถ จยย.4 คัน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลถึงนายทุน และผู้ร่วมขบวนการ พร้อมทั้งตรวจสอบรถ จยย.ทั้ง 4 คันว่าเป็นรถ จยย.ที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่ ต่อไป..