พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปจร.ตร. แถลงผลงาน ภ.2 เปิดปฏิบัติการกวาดล้างรถยนต์ใช้เอกสารราชการปลอม (แผ่นป้ายการเสียภาษีประจำปีและใบขับขี่) ในพื้นที่ภาคตะวันออก
วันที่ 23 ธ.ค.65 ที่ศูนย์บัญชาการตพรวจภูธรภาค 2 จ.ชลบุรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปจร.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในการแถลงผลงาน ภ.2 เปิดปฏิบัติการกวาดล้างรถยนต์ใช้เอกสารราชการปลอม (แผ่นป้ายการเสียภาษีประจำปีและใบขับขี่) ในพื้นที่ภาคตะวันออก
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปจร.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนปราบปรามจับกุม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องปรามอาชญากรรม และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในการรักษาทรัพย์สิน (รถยนต์, รถจักรยานยนต์)
โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2. พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี/ผอ.ศปจร.ภ.2 พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุด ผบก.ภ.จว.นครนายก พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 และ พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย ผบก.ภ.จว.ตราด ร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ทุก ภ.จว.ในสังกัด ภ.2 ได้บูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยประสานงานกับนายฉัตรชัย อนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี สืบสวนขยายผลการกระทำความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถฯ อย่างเป็นระบบ และจากข้อมูลการบูรณาการสืบสวนของ บช.น. และ บช.ภ.2 ซึ่งพบว่ามีการนำเอกสารราชการปลอม (แผ่นป้ายการเสียภาษีประจำปี และใบขับขี่) เข้ามาใช้ในพื้นที่ภาคตะวันออกจำนวนมาก
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 จึงได้เรียกประชุม และสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดบูรณาการกำลังในการปฏิบัติการระดมกำลังกวาดล้าง ตรวจสอบ ตรวจยึด พิสูจน์ทราบ ผู้ที่สั่งทำแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอมเพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยผลการปฏิบัติการระดมกวาดล้าง ได้ทำการตรวจสอบเป้าหมาย จนสามารถตรวจยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่กระทำความผิดดังกล่าวในเขตพื้นที่ ภ.2 จำนวนทั้งสิ้น 74 คัน (รถยนต์ 73 คัน, จักรยานยนต์ 1 คัน) แยกเป็น ภ.จว.ชลบุรี 22 คัน ภ.จว.จันทบุรี 5 คัน ภ.จว.ระยอง 10 คัน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา 6 คัน ภ.จว.ตราด 5 คัน ภ.จว.นครนายก 3 คัน ภ.จว.ปราจีนบุรี 7 คัน และ ภ.จว.สระแก้ว 5 คัน
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.รถที่หนีไฟแนนซ์หรือรถหลุดจำนำและมีการนำมาขายต่อ ซึ่งต่อมานำมาใช้และไม่สามารถต่อภาษีอย่างถูกต้องได้ จึงได้สั่งทำใบแสดงการเสียภาษีปลอมนำมาใช้กับรถที่ตรวจยึด จำนวน 73 คัน
2.รถที่เป็นของผู้ต้องหาเอง (รถถูกต้องตามกฎหมาย) แค่ขาดการต่อภาษีอย่างถูกต้อง จึงได้สั่งทำใบแสดงการเสียภาษีปลอมนำมาใช้กับรถที่ถูกตรวจยึด จำนวน 1 คัน
3.รถที่ได้มาจากการโจรกรรมหรือมีการแจ้งหายไว้ นำมาใช้และไม่สามารถต่อภาษีอย่างถูกต้องได้ จึงได้สั่งทำใบแสดงการเสียภาษีปลอมนำมาใช้กับรถที่ถูกตรวจยึด ปัจจุบันยังไม่พบแต่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการต่อไป
4.แบ่งเป็นประเภทความผิดที่ดำเนินคดีต่อรถที่ตรวจยึดไว้ทั้งหมด ประกอบด้วย ข้อหาใช้เอกสารราชการปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ป.อาญา มาตรา 268 จำนวน 50 ราย ข้อหาใช้เอกสารราชการปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ป.อาญา มาตรา 268 และข้อหาใช้เครื่องหมาย (ป้ายทะเบียน) ที่นายทะเบียนออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคันหนึ่งโดยผิดกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 67 จำนวน 24 คัน ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผล และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามกระบวนการต่อไป
จึงขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า การใช้รถยนต์ที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่สร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับสังคมโดยส่วนรวม ยกตัวอย่างเช่น กรณีการใช้รถผิดกฎหมายเหล่านี้แล้วเกิดทำผิดกฎจราจร เจ้าของรถคันที่แท้จริง ก็อาจได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ กรณีการใช้รถติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมไปกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เช่นที่พบว่ามีการนำรถสวมทะเบียนไปก่อเหตุปล้นทรัพย์ ในท้องที่ สภ.หนองปรือ จว.ชลบุรี เป็นต้น
กรณีการนำรถที่สวมซาก ตัดต่อแชสซีส์แล้วติดป้ายภาษีปลอม ทะเบียนปลอมไปหลอกขายผู้อื่น กรณีการติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมแล้วเกิดเหตุชนแล้วหนี ทำให้ไม่สามารถติดตามรถหรือเจ้าของรถที่แท้จริงอาจได้รับความเดือดร้อนได้ เป็นต้น
อีกทั้ง การไม่เสียภาษีประจำปีก็เป็นการเอาเปรียบประชาชนที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอเตือนไปยังผู้ที่ใช้ หรือคิดที่จะซื้อรถประเภทนี้มาใช้เนื่องจากเห็นว่าราคาถูก ถ้าหากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบ นอกจากรถจะถูกยึดส่งคืนเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว ยังจะต้องถูกดำเนินคดี หรือหากรถเกิดอุบัติเหตุ ก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรนำรถผิดกฎหมายและเอกสารราชการปลอมเหล่านี้มาใช้โดยเด็ดขาด