กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติปานแก้วผบก.ปปป.ได้สั่งการให้เจ้าหนา้ที่ตํารวจบก.ปปป. ร่วมกับ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดย นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท., พ.ต.ต.จักรกฤษณ์ ประจันพล ผู้อํานวยการกลุ่มงานคุ้มครองพยาน ป.ป.ท. พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช., นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อม เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ร่วมกันจับกุมนายรัชฎา (สงวนนามสกลุ) อายุ 60 ปี ซึ่งถูกกล่าวหาว่า “เป็นเจา้พนักงานสมาชิกสภา นิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่ กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่และเปน็เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหนา้ที่โดยมิชอบ เพื่อใหเ้กิดความเสียหายแกผู่้หนึ่งผใู้ดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” สถานที่จับกุมกรมอุทยานแห่งชาติสัตวป์่าและพันธุ์พืช ๖๓ ถนนพหลโยธินแขวงลาดยาวเขตจตุจักร กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 ได้มีีผู้ร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ให้ช่วย ดําเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของนายรัชฎาฯ ข้าราชการระดับสูง ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เนื่องจากมีพฤติกรรม เรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในสังกัด โดยเป็นการเรียกรับ เงินจากหัวหน้าหน่วย เพื่อเป็นการวิ่งเต้นให้รักษาตําแหน่งหัวหน้าหน่วยไว้ให้ โดยหากหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วย ไม่นําเงินมาวิ่งเต้นตําแหน่งกับนายรัชฎาฯ ภายหลังจะถูกโยกย้ายออกจากตําแหนง่ ซึ่งการวิ่งเต้นรักษา ตําแหน่งนั้น หัวหน้าหน่วยจะต้องนําเงินมามอบให้ที่สํานักงานของนายรัชฎาฯ รายละประมาณ 500,000 – 1,000,000บาท อีกทั้งยังต้องนําเงินสดมามอบให้เป็นรายเดือนอีกดว้ย
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ข้าราชการระดับสูงรายดังกล่าว มีพฤติกรรมในการเรียกเก็บเงินจากหัวหน้า หน่วยงานในภาคสนามอีกด้วย โดยจะคิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยาน แห่งชาติ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจะเก็บ๑๘.๕เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดําเนินงานและคา่ใช้สอย,หนว่ย ป้องกันไฟป่า๓๐เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดําเนินงานและคา่ใช้สอย
จากพฤติกรรมของทางนายรัชฎาฯ ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีการเรียกรับเงินจากทางเจ้าหน้าที่ฯ โดยมิชอบ ซึ่งถือเป็นการกระทําผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. จึงร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ดําเนินการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดําเนินคดีกับนาย รัชฎาฯ
โดยในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.และป.ป.ท.นํากําลังเข้าตรวจสอบที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตวป์่าและพันธุ์พืชโดยพบตัวนายรัชฎาฯ อยู่ภายในสํานักงานดังกล่าวฯ ซึ่งขณะนั้นพบว่ากําลังมีการรับเงินจากทางเจ้าหน้าที่ที่จะต้องนําเงินมามอบให้ กับนายรัชฎาฯ เจ้าหน้าที่จึงทําการจับกุม และตรวจยึดของกลางเงินสดมูลค่าประมาณ ๔.๙ ล้านบาท พร้อม กับซองบรรจุเงินที่มีการจ่าหน้าซองจากหน่วยงานในแต่ละสังกัดอีกจํานวนหลายซอง และเอกสารอีกจํานวน หลายฉบับซึ่งเกีี่ยวข้องกับการดําเนินการเรียกรับเงินของนายรัชฎาฯ นําส่งพนักงานสอบสวน ดําเนินการตาม กฎหมายต่อไป
“ผู้ต้องหาหรือจําเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคําพิพากษาถึงที่สุด”