กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป. พร้อมด้วย FBI Legat office Bangkok หรือ สำนักงานตำรวจสืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.พร้อมคุณ ทองบัว รอง สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายปีเตอร์จูเนียร์ หรือ Mr.Peter,Jr (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี สัญชาติเซนต์คริสโตเฟอรัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 870/2565 ลงวันที่ 27 ธ.ค.65 คดีหมายเลขดำที่ จผ12/2565 คดีหมายเลขแดงที่ จผ12/2565 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สมคบกันเพื่อฉ้อโกงหลักทรัพย์ ฉ้อโกงหลักทรัพย์และสนับสนุนและช่วยเหลือการกระทำความผิดและสมคบกันสร้างราคาหลักทรัพย์” (หมายจับผู้ร้ายข้ามแดน)
สถานที่จับกุม ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับหาดสุรินทร์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2557 นายปีเตอร์ฯ กับพวก ซึ่งเป็นหุ้นส่วนบริษัทแห่งหนึ่งได้เข้าซื้อ (เทคโอเวอร์) ธุรกิจร้านขายอาหารสำเร็จรูปในสหรัฐอเมริกา และมีแผนที่จะขยายสาขาร้านขายอาหารสำเร็จรูปเพิ่ม โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มมูลค่าบริษัทเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกา โดยหลังจากเข้าซื้อบริษัทดังกล่าวแล้ว นายปีเตอร์ฯ มีการยักย้ายถ่ายโอนหุ้นของบริษัทให้กับผู้ร่วมกระทำความผิดเรื่อยมา
ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2562 นายปีเตอร์ฯ กับพวก สามารถนำบริษัทดังกล่าวเข้าตลาดหลักทรัพย์ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยกำหนดราคาเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ราคา IPO) ในราคา 1.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ต่อมานายปีเตอร์ฯ ได้ว่าจ้างนักเทรดหุ้นกลุ่มหนึ่งให้สร้างการซื้อขายหุ้นของบริษัทดังกล่าว เพื่อดัน
ราคาหุ้นของบริษัทให้สูงขึ้น จากการตรวจสอบราคาหุ้นของบริษัท ณ วันที่16 เม.ย.64 มีราคา 12.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น หรือขึ้นไปสูงถึง 939% ของราคาเปิดขาย ในระยะเวลาเพียง 2 ปีอีกทั้งยังมีการโอนหุ้นบริษัทให้ตัวแทนนอมินีที่อยู่ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและบริษัทนอมินีอื่น ๆ จำนวน 3.5 ล้านหุ้น ซึ่งทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
จากการสืบสวนพบว่านายปีเตอร์ฯ มีการสื่อสารและสั่งการกับบริษัทนอมินีซึ่งถือได้ว่านายปีเตอร์ฯ มีอำนาจในการควบคุมนอมินีผู้ถือหุ้น 3.5 ล้านหุ้นนี้จึงมีการสืบสวนความเชื่อมโยงดังกล่าว และได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่านายปีเตอร์ฯ กับพวก เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปั่นหุ้นและยักย้ายถ่ายโอนหุ้นของบริษัทจากกรณีดังกล่าวทำให้นายปีเตอร์ฯ กับพวก ได้ถูกออกหมายจับโดยศาลรัฐนิวเจอร์ซีย์ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 ในข้อหา “สมคบกันเพื่อฉ้อโกงหลักทรัพย์ ฉ้อโกงหลักทรัพย์ และสนับสนุนและช่วยเหลือการกระทำความผิดและสมคบกันสร้างราคาหลักทรัพย์” ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุก 20 ปี โดยหลังจากถูกอออกหมายจับ นายปีเตอร์ ซีเนียร์ (พ่อของนายปีเตอร์ฯ) และนายเจมส์ฯ ถูกจับกุมได้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
จากการสืบสวนทราบว่า นายปีเตอร์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย สำนักงานตำรวจสืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย (FBI Legat office Bangkok) จึงได้มีการประสานข้อมูลมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อทำการสืบสวนหาข้อมูล โดยทราบว่านายปีเตอร์ฯ ได้พักอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบที่พักของผู้ต้องหา ต่อมาในวันที่ 11 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม นายปีเตอร์ฯ ได้ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับหาดสุรินทร์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากการตรวจสอบพบว่า นายปีเตอร์ฯ เป็นบุคคลตามหมายจับส่งผู้ร้ายข้ามแดน จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งศาลอาญา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายปีเตอร์ฯ ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับส่งผู้ร้ายข้ามแดนจริง