วันศุกร์, กันยายน 20, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมทนายหอบคลิปลับ พาพยานร้อง กองปราบฯ ตรวจสอบเส้นทางการ ด้านครูบาไก่แถลงสื่อ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

Related Posts

ทนายหอบคลิปลับ พาพยานร้อง กองปราบฯ ตรวจสอบเส้นทางการ ด้านครูบาไก่แถลงสื่อ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

“…อิคคิว  อดีตโยมอุปัฏฐาก นำหลักฐานเด็ดครูบาไก่ Video Call โชว์ของลับคุยกับเด็กหนุ่ม เป็นคลิปลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน  พร้อมหลักฐานแชทข้อความกับชายหนุ่ม ลักษณะการส่งรูปอวัยวะเพศให้ครูบาไก่เพื่อขอแลกเงิน พร้อมพยานบุคคล เข้าแจ้งความร้องทุกข์กองปราบ ยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านครูบาไก่ แถลงสื่อปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา…”

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ม.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. น.ส.ณิชารีย์ พูลศรี ทนายความ พา น.ส.วาสนา เคลือบสูงเนิน หรือ อิคคิว โยมอุปัฏฐาก พร้อมพวกรวม 3 คนเข้าร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.ตรวจสอบเส้นทางการเงินและพฤติกรรมของครูบาไก่ หรือ พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยนำภาพถ่ายและคลิป รวมทั้งเอกสารการโอนเงินมามอบให้ตรวจสอบ

น.ส.วาสนา เคลือบสูงเนิน หรือ อิคคิว โยมอุปัฏฐาก ที่ออกมาแฉครูบาไก่ หรือ พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยพยานปาก 3 คน เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนำเอกสารหลักฐานสำคัญ เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปราม  เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน นอกจากนี้ อิคคิว บอกว่า วันนี้นำหลักฐานเด็ดเป็นคลิปลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งเป็นคลิปที่ครูบาไก่ Video Call โชว์ของลับคุยกับเด็กหนุ่ม

ส่วนพยานบุคคลที่พามาแจ้งความด้วยวันนี้เป็นอดีตลูกศิษย์ที่เคยอยู่ในกุฏิร่วมกับครูบาไก่ ซึ่งมักพบเห็นพฤติกรรมของครูบาไก่ชอบดูรูปเด็กหนุ่มและเรียกเด็กหนุ่มมาหาเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้มีหลักฐานว่าครูบาไก่มีพฤติกรรมกับเด็กหนุ่มนอกจากกับบุคคลที่เป็นข่าวอีกประมาณอีกประมาณ 3-4 คน รวมถึงพระในวัดและเป็นเพื่อนสนิทของพยานที่มาในวันนี้ ซึ่งปัจจุบันพระรูปนี้ ได้หลบหนีไปอยู่วัดอื่น หลังครูบาไก่เป็นข่าว

โดย อิคคิว ยังนำหลักฐานแชทข้อความระหว่างครูบาไก่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะการส่งรูปอวัยวะเพศให้ครูบาไก่เพื่อขอแลกเงิน, ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้เงินไปทำธุรกิจส่วนตัวและรถยนต์อีกอย่างน้อยหนึ่งคัน

ขณะที่ น.ส.คมคาย เวกนวล  หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้เข้ามาร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดี และตรวจสอบเส้นทางการเงินของครูบาไก่ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใช้เงินตรงตามวัตถุประสงค์ที่ประการแจ้งต้องศิษยานุศิษย์หรือไม่  หลังพบหลักฐานบางอย่างว่ามีการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลภายนอก เพื่อใช้จ่ายในการส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการของวัด เรามีหลักฐานแชทการพูดคุยของครูบาไก่ กับชายผู้รับโอนเงินคนดังกล่าว นอกจากนี้อยากให้ตรวจสอบว่า ทองคำน้ำหนัก 188 บาท ที่รับบริจาคยังอยู่ครบหรือไม่ 

นอกจากนี้ น.ส.คมคาย ยังระบุว่า ที่ผ่านมาตนเองพยายามถอนตัวออกไปอย่างเงียบๆ แต่ครูบาไก่กลับออกมาระบุว่า กลุ่มตนขโมยเงินกฐินของวัดไป ซึ่งยืนยันไม่เป็นความจริง และยังปฏิเสธว่าไม่รู้จักพวกตนมาก่อน ทั้งๆ ที่ตนเคยนำเงินจำนวน 3แสนบาทไปถวายให้ครูบาด้วยตัวเอง อีกทั้งตนยังเป็นคนไปซื้อทองที่ร้านทองใน จ.ขอนแก่น ซึ่งในวันดังกล่าวครูบามีเงินไม่พอที่จะซื้อทองไปสร้างพระ ตนจึงถอดสร้อยคอทองคำหนัก 20 บาท จำนำกับร้านทองเพื่อนำเงินไปซื้อทองให้ครูบานำไปทำพิธี โดยระบุชัดเจนว่าหลังทำพิธีเสร็จให้ถอนเงินมาไถ่ทองให้ตนเอง  ขอยืนยันว่าสิ่งที่พูดมาเป็นความจริงทั้งหมด เพราะตนมีหลักฐานชัดเจน  อย่างไรก็ตามตนจะดำเนินคดีกับครูบาไก่ให้ถึงที่สุด  และจะจัดหนักในทุกข้อหาที่สามารถทำได้  พร้อมฝากถึงทนายความของครูบาไก่ว่า ตนไม่ได้ล่วงเกินพระพุทธสาสนา ตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ตนมีปัญหาเฉพาะบุคคลเท่านั้น เพราะกระทำการไม่ถูกต้อง และสาเหตุที่ต้องมาแจ้งความกับกองปราบปรามเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ สำนักพุทธศาสนา จังหวัดขอนแก่นมาแล้วแต่ทางสำนักพุทธได้ยุติการตรวจสอบโดยอ้างว่าเนื่องจากทางครูบาไก่แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตนจึงต้องยุติการตรวจสอบชั่วคราวตนเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไปทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องร้องต่อตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้แทน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องเอาไว้เพื่อนำไปทำการตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาใดบ้างเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ ครูบาไก่ ซึ่งได้ออกมาแถลงและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยครูบาไก่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่า ไม่ได้มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับเด็กหนุ่มในเชิงชู้สาว พร้อมทั้งอธิบายเรื่องเงินทำบุญจากญาติโยม รวมถึงทองคำหนัก 188 บาทที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเพื่อจะนำมาหล่อพระพุทธรูปทองคำบรรจุไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปในวิหาร

ซึ่งทางทีมทนายความของครูบาไก่ ออกมาชี้แจงว่าเงินและทองคำ 188 บาทมีการนำไปสร้างพระพุทธรูปจริง จำนวน 64 องค์และมีการเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย ส่วนวิหารที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเนื่องจากมีการเปลี่ยนทีมช่างและเงินไม่พอ

ด้านนายติราช นาถปุญโญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลที่ได้ไปถวายให้กับคณะสงฆ์ที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ทางคณะสงฆ์นำไปประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนผลสรุปอย่างไรนั้น คณะสงฆ์จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามระเบียบพระธรรมวินัยของสงฆ์เอง เบื้องต้นได้ยุติการสอบสวนของฝ่ายสงฆ์เป็นการชั่วคราว เนื่องจากครูบาไก่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหา จึงต้องรอให้กระบวนการทางกฎหมายเสร็จสิ้น หากศาลมีคำสั่งอย่างไร ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ทางคณะสงฆ์ตั้งขึ้น จะนำคำตัดสินของศาลมาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

#สืบจากข่าว : รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts