กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์ รอง ผกก.1 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ต.ดนัย ดีดวงพันธ์สว.กก.1 บก.ปทส.,ร.ต.อ.มนตรี ฤทธิรงค์ รอง สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.
ร่วมกันจับกุม 1. น.ส.พัชราพาณ์(ขอสงวนนามสกุล) อายุ30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 187/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค.2566 2.นายสิทธิพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 191/2566 ลงวันที่ 18 ม.ค.2566 เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ค้าและมีไว้ครอบครองซากซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพักย่านจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 06.30 น. พร้อมด้วยของกลางซากเสือไฟ เช่น ชิ้นส่วนบริเวณหน้าผาก จำนวน 2 ชิ้น, ชิ้นส่วนหาง จำนวน 1 ชิ้น, บริเวณชิ้นส่วนหนัง หลายขนาดจำนวน 19 ชิ้น, ชิ้นส่วนหนังบรรจุในตะกรุด จำนวน 6 ดอก, น้ำมันเสือไฟ จำนวน 16 ขวด
ผบก.ปทส.มอบหมายให้ผกก.1 บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและ คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 โดยเฉพาะการค้าสัตว์ป่าทางออนไลน์
ต่อมาชุดสืบสวน กก.1 บก.ปทส. พบว่ามีเพจเฟซบุ๊กค้าซากเสือไฟ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ถูกจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของโลกตั้งแต่ปี 2551 และ เป็นสัตว์ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งเสือไฟประสบปัญหาถูกล่าเพื่อเอาหนังและกระดูกมาขาย โดยเนื้อหาในเพจเฟซบ๊กมีการประกาศขายซากส่วนหน้าผากเสือไฟ, หนังเสือไฟ, หางเสือไฟ เครื่องรางและน้ำมันเสือไฟ ให้กับผู้ที่นิยมและผู้ที่นำไปใช้เป็นเครื่องรางตามความเชื่อเกี่ยวกับมหาอำนาจ บารมี เมตตามหาเสน่ห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ส่งสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจสอบ พบว่าซากสัตว์ดังกล่าวที่ประกาศขายเป็นหนังเสือไฟสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงได้ขออนุมัติหมายจับแอดมินเพจทั้ง 2 ราย คือ น.ส.พัชราพาณ์ฯและ นายสิทธิพรฯ ซึ่งเป็นสามีภรรยา และได้ขอหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของแอดมินเพจ
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2565 ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปทส. นำหมายค้น และหมายจับ เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 บริเวณบ้านพัก ตรวจยึดซากเสือไฟ เช่น ชิ้นส่วนบริเวณหน้าผาก จำนวน 2 ชิ้น, ชิ้นส่วนหาง จำนวน 1 ชิ้น, บริเวณชิ้นส่วนหนัง หลายขนาดจำนวน 19 ชิ้น, ชิ้นส่วนหนังบรรจุในตะกรุด จำนวน 6 ดอก, น้ำมันเสือไฟ จำนวน 16 ขวด นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดี ส่วนของกลางที่ตรวจพบเพิ่มเติมนำส่ง สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อตรวจสอบต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ขายหนังเสือไฟ และน้ำมันเสือไฟให้กับ ผู้นิยม และผู้ที่จะนำไปนำไปใช้เป็นเครื่องรางตามความเชื่อที่ว่า สามารถช่วยเรื่องค้าขายเจริญรุ่งเรือง ป้องกันภูตผีปีศาจ และมหาเสน่ห์โดยผู้ต้องหารับซื้อซากเสือไฟเป็นตัวๆ จากผู้ขายให้อีกทอดหนึ่งในลักษณะพ่อค้าคนกลาง และนำมาตัดแบ่งขายชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อจะตัดแบ่งขาย อาทิเช่น หน้าผากเสือไฟ ราคา 2,600 – 2,800 บาท, หนังเสือไฟ ตามขนาด ราคา 200 – 1,000 บาท, หางเสือไฟ ตามขนาด ราคา 400บาท ตะกรุดปลุกเสก ราคา 300 บาท และน้ำมันเสือไฟ ราคาขวดละ 199 บาท