ต่อมา นายเอนก คำชุ่ม และนายอาทร ดำคง ทนายความของนายประหยัด กล่าวในเวลาต่อมา ว่า….
ในเนื้อหาของคำพิพากษามีอยู่หลายส่วน เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตรวจสอบ อละกระบวนการไต่สวน ซึ่งศาลได้วินิจฉัยแล้ว่ากระบวนการตรวจสอบและไต่สวนชอบ และเกี่ยวกับเรื่องการออกระเบียบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. วินิจฉัยว่าก่รออกระเบียบชอบ เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่สามารถส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องที่ศาลอาญาดำรงตำแหน่งนักการเมืองได้
ทีนี้ก็มาพิจารณาใน 3 ส่วน คือทรัพย์สิน ที่ว่านายประหยัด จงใจหรือไม่ โดยแยกเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 คือบัญชีกระแสรายวันที่ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นบัญชีของนางธนิภา พวงจำปา ภรรยา ซึ่งพ่วงกับบัญชีออมทรัพย์ ศาลวินิจฉัยว่า นายประหยัดไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิด และนางธนิภา พวงจำปา ไม่มีเจตนาปกปิด ในบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวได้ เพราะสามารถตรวจสอบจากบัญชีออมทรัพย์ได้
ส่วนที่ 2 คือหุ้น เชื่อว่านางธนิภา พวงจำปา ไม่ได้ปกปิด เนื่องจากเป็นกิจการในครอบครัว หุ้นทั้งหมดเคยเป็นชื่อของนางธนิภา พวงจำปา และออกไปแล้ว นางธนิภา ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้ประโยชน์อะไร และบริษัทนี้ทางรายงานผู้ตรวจสอบบัญชีบอกว่าผลประกอบการขาดทุนและมีแนวโน้มที่จะปิดกิจการ เชื่อได้ว่านางธนิภา ไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดในเรื่องของหุ้น
ประเด็นสำคัญในเรื่องห้องชุดที่อังกฤษทางนางธนิภา ถือแทนบุคคลภายนอกหรือไม่ มีข้อเท็จจริงหลากหลายที่นำมาวินิจฉัย และสรุปได้ว่า นางธนิภา เป็นเจ้าของห้องชุดดังกล่าว จำนวนเงินที่ซื้อห้องชุดสูง วินิจฉัยว่านางธนิภา ไม่ได้แจ้ง เป็นเหตุให้นายประหยัดไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินในส่วนนี้ แนวทางในการสู้คดีมาตลอดว่านายประหยัดไม่ได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องการทำธุรกิจในส่วนของนางธนิภา และครอบครัว ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดไม่ได้ชื่อของนายประหยัด เป็นของนางธนิภา เมื่อภรรยาแจ้งมาอย่างไรก็เชื่อไปตามนั้น เมื่อศาลเชื่อว่านายประหยัดน่าจะรู้ ก็เลยวินิจฉัยว่าจงใจปกปิด สุดท้ายศาลวินิจฉัยว่านายประหยัดมีความผิด แต่ก็ให้รอการลงโทษ
ส่วนกระบวนการดังกล่าวเป็นรายละเอียดในคำพิพากษาซึ่งเยอะมาก คงต้องรอคำพิพากษาสักระยะหนึ่ง แนวโน้มของนายประหยัดก็คงต้องสู้คดีนี้ต่อไปเพื่อให้สิ้นกระแสความทั้งหมด ยังเชื่อว่านายประหยัดเชื่อตามข้อเท็จจริงที่ได้รับการบอกกล่าวจากภรรยาจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาปกปิด ตัวนายประหยัดเชื่อโดยสุจริตจงใจปกปิด แต่เมื่อศาลวินิจฉัยมาอย่างนี้ก็ต้องมาดูว่าเพราะเหตุผลใด
ขอบคุณกระบวนการยุติธรรมที่ได้ให้โอกาสนายประหยัดได้ชี้แจงและต่อสู้มาจนถึงบัดนี้
นายประหยัดแจ้งว่ารอดูรายละเอียดคำพิพากษาและจะได้อุทธรณ์ในส่วนนี้ เพราะมีผลต่อการดำรงตำแหน่งฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ 5 ปี