วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
หน้าแรกท้องถิ่น"ทนายอั๋น" บุรีรัมย์ ร้องสภาทนายความ สอบมรรยาททนายตั้ม โดยคำนึงถึง "ศักดิ์ศรีและเกียรติคุณ" ของวิชาชีพทนายความเป็นประการสำคัญ

Related Posts

“ทนายอั๋น” บุรีรัมย์ ร้องสภาทนายความ สอบมรรยาททนายตั้ม โดยคำนึงถึง “ศักดิ์ศรีและเกียรติคุณ” ของวิชาชีพทนายความเป็นประการสำคัญ

วันที่ 1 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ “คนรุ่นใหม่ ประชาธิปไตยบริสุทธิ์” ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกสภาทนายความฯ ว่า ตามที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้ออกมายอมรับว่าได้มีการเรียกรับเงินจำนวน 300,000 บาท จากลูกความของตนเอง ซึ่งเป็นการจัดให้มีการแถลงข่าว เพื่อผลประโยชน์ในทางคดี และเหตุที่ได้เรียกเอาเงินจำนวนสูงนั้น เพราะถือเป็น “ค่าเสี่ยงภัย” ที่อาจถูกคู่ความฝ่ายตรงข้ามฟ้องดำเนินคดีกับตนเองได้ และพฤติกรรมอื่นๆ ที่ปรากฎเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชน ทราบกันดีแล้วนั้น ข้าฯ ในฐานะเป็นผู้ประกอบการวิชาชีพ เป็นทนายความ เลขที่ใบอนุญาต 1194/2553 เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่ายกระทำผิดมรรยาททนายความในหลายประการ ดังนี้

1.กรณีเรียกรับเงิน 300,000 บาท ในการจัดแถลงข่าวเป็นค่าเสี่ยภัยที่อาจถูกคู่ความฝ่ายตรงข้ามฟ้อง ซึ่งนายษิทรา ยอมรับว่า “มีโอกาสสูง” และได้ถูกฟ้องในหลายคดี ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ “ผิดหรือขัดต่อกฎหมาย” และได้นำลูกความของตนเองกระทำในสิ่งที่ “ผิดหรือขัดต่อกฎหมาย” ด้วย เพราะหากเป็นการแถลงข่าวที่ไม่ “ผิดหรือขัดต่อกฎหมาย” ด้วยแล้ว เหตุใดคู่ความฝ่ายตรงข้ามจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับตนเองได้ อาจหมายความได้ว่า นายษิทรา ได้ประกอบอาชีพดำเนินธุรกิจ หรือ ประพฤติตนกับสิ่งผิดต่อศีลธรรมอันดีและผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง หรือไม่

ด้วยเหตุนี้ พฤติกรรมดังกล่าวของนายษิทรา จึงเป็นการพาลูกความกระทำการอัน “ผิดหรือขัดต่อกฎหมาย” ซึ่งขัดต่อกฎข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 ข้อที่ 18 ว่าด้วย ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือ เป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ

2.พฤติกรรมก่อนหน้านี้ของนายษิทรา ที่ไปเรียกรับเงินจากลูกความจำนวน 500,000 บาท เพื่อเป็นค่า “วิ่งเต้นคดี” ที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้และได้มีการนำมาเผยแพร่ต่อเนื่องในขณะนี้นั้น

เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการผิดข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมารยาททนายความ พ.ศ.2529 ข้อ 8 ข้อ 8 และ ข้อ 10 ที่ว่าด้วยเรื่องการให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน เพื่อให้ช่วยเหลือในทางคดี และยังเป็นการอวดอ้างให้หลงเชื่อว่าตนเองสามารถทำให้ได้รับผลเป็นพิเศษนอกจากการว่าความ อีกด้วย

3.ปรากฎตามหน้าข่าวของสื่อมวลชนว่า นายษิทรา ได้พัวพันกับการทำเอกสารปลอม ใช้เอกสารปลอมดังกล่าว นำพิสูจน์ในชั้นศาล เพื่อให้ลูกความได้รับประโยชน์ตามมาตรา 100/2 พ.ร.บ.ยาเสพติด(เดิม)อันเป็นการกระทำผิดตามข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 ข้อที่ 8

ข้าฯ ขอให้สภาทนายความได้โปรดวินิจฉัย และดำเนินการตามระเบียบของทางสภาทนายความ โดยโปรดคำนึงถึง “ศักดิ์ศรีและเกียรติคุณ” ของวิชาชีพทนายความเป็นประการสำคัญ และหากมีบุคคลใดได้ร้องเรียนนายษิทราแล้วในข้อ 2 และ 3 ข้าฯ ขอทราบผลการวินิจฉัยของสภาทนายความด้วย และ/หรือ ขอให้สภาทนายความได้จัดให้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบโดยทั่วกัน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts