วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกข่าวประชาสัมพันธ์ป.ป.ช. ผลักดันร่างกฎหมายคุ้มครองฟ้องปิดปาก ปกป้องประชาชนเปิดโปงคดีทุจริต

Related Posts

ป.ป.ช. ผลักดันร่างกฎหมายคุ้มครองฟ้องปิดปาก ปกป้องประชาชนเปิดโปงคดีทุจริต

วันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2566 สํานักงําน ป.ป.ช. ผลักดันกฎหมํายคุ้มครองฟ้องปิดปําก เพื่อคุ้มครองประชําชนที่เปิดโปงแจ้งเบําะแส กํารทุจริต โดยมุ่งหวังประชําชนจะเกิดควํามเชื่อม่ันในกลไกทํางกฎหมํายที่ให้กํารปกป้อง คุ้มครอง และยังช่วย ส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้านหรือชีเบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบมากยิ่งขึ้น

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสานักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการฟ้องคดีปิดปากในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ พ.ศ. … เป็นกฎหมายที่สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สานักงาน ป.ป.ช.) ขับเคลื่อน เพื่อเป็นกฎหมายคุ้มครองประชาชนที่เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะอันจะนำไปสู่การตรวจสอบการทุจริต เช่น การแจ้งเบาะแสการทุจริต และการให้ข้อมูลการบุกรุกสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน แม่น้ำ ลำคลอง เป็นต้น ซึ่งมักจะ ถูกผู้สูญเสียประโยชน์นำกระบวนการยุติธรรมมาเป็นเครื่องมือโดยมิชอบ ด้วยการ “ฟ้องปิดปาก” (Strategic Lawsuit Against Public Participation: SLAPP) ซึ่งปัจจุบันคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการแล้ว และผ่านการตรวจ พิจารณาจากสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นเรื่องเสร็จที่ 1501/2565 หลังจากนันจะเป็นการรับฟังความ คิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ เช่น กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วจึงจะส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอรัฐสภา ต่อไป

โดยกฎหมายที่ ป.ป.ช. ผลักดันฉบับนี้มีวัตุประสงค์สาคัญเพื่อ “มุ่งคุ้มครองประชาชนที่เปิดโปง แจ้งเบาะแส การทุจริต” ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้จากหลายกรณีว่าผู้ที่ร้องเรียน หรือเปิดโปงกรณีทุจริตหลายรายจะพบเจอกับการต้องตกเป็นจำเลยถูกฟ้องกลับ ทำให้ผู้ที่มีเบาะแสการทุจริต ไม่อยากเสียเวลาที่ต้องสุ่มเสี่ยงเกิดเป็นคดีความที่มีระยะเวลา ยาวนานในการพิจารณาคดี ดังที่เป็นตัวอย่างในปัจจุบัน เช่น กรณีผู้รับเหมาถูก ผู้อานวยการวิทยาลัยดังในอาเภอ ธัญบุรี นำข้อมูลและพยานหลักฐานการเรียกรับสินบนไปร้องต่อ ป.ป.ท. แต่สุดท้ายต้องกลายเป็นจาเลยถูกขู่ฟ้องกลับ ส่งผลให้สังคมตังคาถามว่า “ถึงเวลําแล้วหรือไม่ที่ประชําชนผู้ร้องเรียนจะได้รับกํารคุ้มครอง”

ดังนั้น ร่างกฎหมายฉบับนี้ จึงเป็นการกาหนดกลไกส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้าน หรือชีเบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้รับความคุ้มครองจากรัฐตามกฎหมาย โดยกาหนดให้คุ้มครองแก่บุคคลที่ได้ แสดงความคิดเห็น ให้ถ้อยคำ แจ้งเบาะแสหรือข้อมูล หรือมีการกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทาของพนักงานของรัฐหรือ บุคคลใดอันเป็นที่มาของการสอบสวน การตรวจสอบ หรือการไต่สวนในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติมิชอบ และบุคคลดังกล่าวตกเป็นเหยื่อจากการถูกนากระบวนการยุติธรรมมาใช้เป็นเครื่องมือโดยมิชอบ หรือกลั่นแกล้ง ด้วยวิธีการฟ้องคดีปิดปาก ไม่ว่าจะเป็นการถูกฟ้องคดีในทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง รวมถึงการดาเนินการ ทางวินัย ทังยังเป็นกฎหมายที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 แผนสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2562 – 2565) แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562 – 2565) และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (UNCAC) อีกด้วย

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. เชื่อว่า หากกฎหมายคุ้มครองฟ้องปิดปากมีผลบังคับใช้แล้ว ประชาชนจะเกิดความ เชื่อมั่นในกลไกทางกฎหมายที่ให้การปกป้อง คุ้มครอง และยังช่วยส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้าน หรือชีเบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบมากยิ่งขึ้น ตลอดจนจะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นในการดำเนินงานต่อต้าน การทุจริตของประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts