“วัชระ” เปิดช่องทางออนไลน์ชวน ปชช.ลงชื่อคัดค้านยกเลิกรถเมล์ร้อนสาย7 เพื่อคนจน เตรียมรวบรวมรายชื่อส่งถึงมือนายกฯ เพื่อให้ทราบถึงความเดือดร้อนและรับฟังเสียงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ จะได้เร่งสั่งการให้รถเมล์ร้อนสาย 7 กลับมาวิ่งบริการประชาชนผู้มีรายได้น้อยเหมือนเดิม
(1 มี.ค.65 ) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เปิดช่องทางออนไลน์ให้ประชาชนลงชื่อคัดค้านการที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ได้ยกเลิกให้บริการรถเมล์ร้อนสาย 7 (คลองขวาง – หัวลำโพง) ตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถลงชื่อได้ที่ ร่วมลงชื่อคัดค้าน หรือสามารถสแกน QR-CODE ได้ทันที แล้วยังสามารถลงชื่อได้ท่ารถเมล์สาย 7 คลองขวางด้วย จากนั้นจะรวบรวมรายชื่อประชาชนส่งให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทราบถึงความเดือดร้อนและรับฟังเสียงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ จะได้เร่งสั่งการให้รถเมล์ร้อนสาย 7 กลับมาวิ่งบริการประชาชนผู้มีรายได้น้อยเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ก.พ.65 นายวัชระ เพชรทอง ได้ยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอไม่ให้ยกเลิกการให้บริการรถเมล์ร้อนสาย 7 (คลองขวาง – หัวลำโพง) เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า จะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะค่าโดยสารราคาถูกเพียง 8 บาทตลอดสาย วิ่งจากคลองขวางเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ผ่านตลาดคลองขวางเข้าถนนเพชรเกษม ไปเดอะมอลล์บางแค ผ่านตลาดบางแค ท่าพระ วงเวียนใหญ่ พาหุรัด เยาวราช วงเวียน 22 สถานีรถไฟหัวลำโพง
เมื่อรถหยุดให้บริการทำให้ประชาชนนับหมื่นคนต้องเดือนร้อนเพราะต้องใช้บริการรถเมล์ปรับอากาศของเอกชนที่มาวิ่งแทนซึ่งมีราคาแพงกว่ามากเป็นเท่าตัวตั้งแต่ 12-25 บาทซึ่งแพงมากกว่าเดิมกว่า300 % เป็นการบีบบังคับไม่ให้โอกาสทางเลือกแก่ประชาชน บรรดาแม่ค้าบ่นโอดครวญว่ารถแอร์ที่มาวิ่งแทนจ่าย 15 บาทยังไปไม่ถึงบางแคเลย ชาวบ้านเดือดร้อนกันมากเหลือเกิน ขอท่านนายกรัฐมนตรีโปรดเห็นใจประชาชนด้วย ขอให้สั่งการให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแลองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มีข้อสั่งการให้รถเมล์ธรรมดา (ร้อน) สาย 7 บริการกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยต่อไป ควบคู่กับรถเมล์ปรับอากาศ อันเป็นการเพิ่มโอกาสและทางเลือกแก่ประชาชนภายใต้ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
สำหรับรถเมล์สายนี้วิ่งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2519 ถึงปัจจุบันเป็นเวลา 46 ปี บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 03.00-22.00 น.ค่าตั๋วโดยสาร 8 บาทตลอดสาย ส่วนกลางคืนเก็บค่าตั๋วเพียง9.50 บาทเท่านั้น การนั่งรถเมล์ธรรมดา (ร้อน) เว้นระยะห่างไม่ติดโรคโควิด-19 ส่วนรถเมล์ปรับอากาศจะทำให้โรคโควิด-19 ระบาดได้ง่าย