เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ก.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พานางอัญชลี จันทร์หอม อายุ 55 ปี
อาชีพค้าขาย ชาวสุราษฎร์ธานี เจ้าพบ ร.ต.ท.เกษมศักดิ์ เปร่งแสง รอง สว.(สอบสวน)กก.5 บก.ป. โดยเป็นผู้เสียหายถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ยึดที่ดิน 3 ไร่ 3 งาน แจ้งความร้องทุกข์ ตำรวจ สภ.พูนพิน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ไม่รับแจ้ง ปัดให้ไปร้องกรมที่ดินเอาเอง
นางอัญชลี เปิดเผยว่า ตนได้รับความเดือดร้อน ขอให้ จ่าคิงส์ แตงทิมพาเข้าแจ้งความ ที่กองปราบปราม ทวงคืนบ้าน และที่ดินจำนวน 3 ไร่ 3งาน ซึ่งดิฉันได้ซื้อมาถูกต้องตามกฎหมาย โดยเจ้าของเดิมได้ขายต่อให้ในราคา 1.3 ล้านบาท เพื่อต้องการเอาเงินไปส่งลูกเรียนหนังสือ จากนั้นได้ไปโอนกรรมสิทธิ์ หลังโฉนดเป็นชื่อของตนเรียบร้อย ไปทำทะเบียนบ้านที่อำเภอมีชื่อตนเป็นเจ้าบ้าน
ต่อมาต้นเดือน ส.ค. หลังจากเข้าไปอาศัยบ้านดังกล่าว ก็มีนายจำรัส อาชีพรับเหมา เจ้าของที่ดินที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นอาของเจ้าของที่เดิม บุกรุกเข้ามาไถดินและยึดบ้านไปครอบครอง อ้างว่าเป็นของเขาเอง
ตนได้ใส่กุญแจบ้านหลังนี้ ทิ้งไว้ แต่เขาได้ทุบกุญแจทิ้งและเข้าไป บุกรุกอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้
เมื่อตนไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน พนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ต.กับนายดาบ ได้พาตนนั่งรถกลับไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าตำรวจนายนั้นได้พูดคุยกับ อา เจ้าของที่ดินเดิม อย่างสนิท ก่อนจะบอกให้ตนว่ายังไม่รับแจ้งความ ขอให้ตนไปติดต่อสำนักงานที่ดินเอาเอง
ตั้งแต่วันนั้นมา นายจำรัส และพวก ก็เข้ามาอยู่อาศัยในบ้านของตนหลังนี้ โดยตกแต่งบ้านหลังนี้ และนำไปตกแต่งแจกการ์ด จัดงานขึ้น บ้านใหม่ เมื่อวันที่ 19 ส.ค ที่ผ่านมา เขาเป็นผู้มีอิทธิพล และกว้างขวางในพื้นที่ มีอาชีพ รับถมที่ รับสร้างบ้าน และขายไก่สด ตนกับเขาไม่เคยรู้จักกันเลย ถูกรังแกยึดที่ดินและบ้านไปทั้งที่ซื้อขายกันอย่างถูกต้อง กลับมาใช้อิทธิพล รังแกตนลูกผู้หญิง ที่ไม่มีทางสู้ ชาวบ้านแถวนั้นหลายๆ คนเตือนไม่ให้ตนไม่เข้าไปยุ่ง เดี๋ยวจะโดน ยิงทิ้ง เขาเคยขู่ต่อหน้า นายตำรวจนายนั้นเลย ว่าถ้าบ้านหลังนี้ ไม่ได้เป็นของเขา เขาจะรื้อทิ้ง ตนกลัวมาก เลยต้องมาร้องเพจ จ่าคิงส์ แตงทิม ให้ช่วยพามาแจ้งความ กับกองปราบปราม ทวงความยุติธรรมในเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ ตนต้องอยู่อย่าง หลบๆ ซ่อนๆ กลัวเขาฆ่าทิ้ง ไม่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยบ้านของตัวเองได้ต้องไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนแทน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลก่อนประสานไปยัง สภ.พุนพิน ให้เร่งรับเฝดำเนินคดีบุกรุก เพื่อให้ความเป็นธรรมผู้เสียหายต่อไป