สืบเนื่องจากเมื่อเดือน มิ.ย.66 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งออนไลน์ว่า มีมิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน อ้างว่าให้อัปเดตข้อมูลการถือครองที่ดินของบิดา โดยการให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ และสนทนากับมิจฉาชีพที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน โดยมิจฉาชีพยังสามารถแจ้งข้อมูลที่ดินของผู้เสียหายได้ถูกต้อง ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ
ต่อมา มิจฉาชีพให้ผู้เสียหายโหลดแอปกรมที่ดินปลอม แล้วขึ้นหน้าจอให้รอทำการตรวจสอบ ในระหว่างทำการตรวจสอบ ห้ามใช้งานมือถือ ต่อมามือถือไม่สามารถใช้งานได้ จึงปิดและเปิดเครื่องใหม่ จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายทำการสแกนใบหน้าหลายครั้ง และให้โอนเงินไปที่บัญชีสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย จำนวน 25 บาท และหลังจากนั้น 2 นาที ผู้เสียหายพบว่ามีเงินออกจากบัญชี 350,551 บาท ก็ทราบว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นควบคุมทางไกล จึงได้ทำการแจ้งความผ่าน www.thaipoliceonline.com
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลจนทราบว่ามีผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.2 ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จึงนำหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา เข้าจับกุมตัว น.ส.อลิชา อายุ 21 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 ดำเนินการต่อไป
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3, ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพานิช รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ,
พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม